Diving Trip - Part 1

ช่วงวันหยุดที่ผ่านมา (๔-๙ เมษา) เราไปดำน้ำกับพวกพี่ปุ๊ก พี่หนิง พี่ดิว ก่อนไปเราต้องทำงานอยู่จนหกโมงครึ่ง พอกลับมาตอนวันจันทร์ที่ ๙ ก็มาทำงานเลย ทำตั้งแต่บ่ายจนถึงสามทุ่ม ตายไปเลย...

ตอนแรกก็หวั่นๆ ว่าครูกุ้งจะไปด้วยไม่ได้ เพราะมีไม่ถึง ๔ คนตามที่จองไว้ตอนแรก คือพี่ปุ๊ก เรา กับอีก ๒ คนที่เป็นนักเรียนของครูกุ้ง พอดีคนหนึ่งเขาไม่สบายเพิ่งออกจากโรงพยาบาลก็เลยขอยกเลิกไม่ไป ส่วนอีกคนก็เลยไม่ไปด้วย ไม่รู้ว่าเพราะอะไร

ตอนที่รู้ว่า ๒ คนนั้นไม่ไป คุณจี๋โทร.มาถามว่าถ้าหาคนมาแทนไม่ได้ จะเป็นอะไรหรือเปล่าถ้าครูกุ้งไม่ไปกับเรา และถึงกับจะลดราคาให้คนละพันด้วยซ้ำ เขาบอกว่าครูกุ้งเป็นห่วงพวกเรา เพราะ Dive Leader ของเรือเป็นมือใหม่ เขาไม่ค่อยไว้ใจให้ Lead พวกเรา แต่เรากับพี่ปุ๊กเห็นตรงกันว่าไม่เป็นไร แและแอบนินทาครูกุ้งว่าที่จริงแกต้องอยากไปมากๆ แน่เลย แต่ไม่กล้าบอกคุณจี๋ตรงๆ เลยได้แต่พูดว่าเป็นห่วงพวกเรา

สุดท้ายครูกุ้งก็ได้ไป เพราะพี่หนิงแอบไปจองทริปกับคุณจี๋โดยไม่บอกเรา กะจะไปเจอเราที่สนามบินเลย เพื่อเซอร์ไพรส์ และทำลายแผนการแกล้งไม่รู้จักกันเพื่อจะได้รู้จักเพื่อนใหม่ และทำลายฝันในการเจอแมนต้าเรย์ (ปลากระเบนราหูที่เกาะบอน) ของเรากับพี่ปุ๊ก

แต่โชคไม่เข้าข้างพี่หนิงเท่าไหร่ ที่ดันลืมสั่งคุณจี๋ว่าห้ามบอกพวกเราว่าเขาจะไปด้วย พอพี่ปุ๊กโทรคุยกับคุณจี๋ก่อนวันเดินทาง ว่าจะช่วยประกาศหาคนซื้อทริปต่อจากคุณจี๋ให้ คุณจี๋เลยบอกว่า พี่หนิงจองทริปด้วยแล้ว และพี่ดิวอาจจะไปได้ด้วย พี่ปุ๊กก็เลยงงๆ คุณจี๋ก็แบบบ่นๆ ว่าเป็นเพื่อนกันยังไง ทำไม่ไม่คุยกันเลย ในที่สุดแผนของพี่หนิงก็เลยแตกไปก่อน ส่วนแผนการทำเป็นไม่รู้จักกันก็เลยแตกตามไปด้วย

การดำน้ำครั้งนี้ มีนักดำน้ำเต็มลิมิท คือ ๒๐ คน มีกลุ่มเรา ๔ คน คุณอาร์ต (Dive Master) เรียกกลุ่มเราว่า กลุ่มสาวโฉด เพราะทั้งโสด และโฉด เวลาแกพูดอะไรก็จะคอยจับผิดและแซว โดยเฉพาะเวลาที่แกสรุปรายละเอียดเกี่ยวกับ Dive Site ให้ฟังก่อนลงดำน้ำแต่ละไดฟ์ ที่กล้าแซวก็เพราะ เคยรู้จักกันมาก่อนมาจากทริปที่แล้ว (ไปดำที่หินม่วง หินแดง ตะรุเตา) แกเป็น Dive Master ของทริปนั้นด้วย

คนอื่นๆ ก็มีกลุ่มคุณหมอ ๓ คน รู้สึกว่าจะเป็นรุ่นน้องประมาณ ๓-๔ ปีมั้ง มีหมอผู้ชายชื่อใช้ และหมอผู้หญิง ชื่อหมอปุ้ย กับหมอแต๊ะ เรารู้สึกว่าหมอแต๊ะหน้าเหมือนพี่บุ๋มมากๆ ขนาดพี่ปุ๊กยังเห็นด้วย เพราะออกปากว่าเหมือนมาก ตอนแรกเรานึกว่าเราคิดอยู่คนเดียว

อีกกลุ่มหนึ่งเป็นผู้ชายหนุ่มๆ เกือบทั้งกลุ่มเราจำชื่อไม่ได้หมด มีชื่อแป๊บ (จบวิศวะจุฬารหัส ๓๕ ท่าทางเหมือนโกะรุ่นเราที่ลาดกระบัง) กับบัดดี้ของเขา (ไม่แน่ใจว่าชื่อเอกหรือเปล่า) แล้วก็มีคนชื่อเน็ตกับบัดดี้ และคนสิงคโปร์พูดไทยได้ที่ชื่อเควินกับแฟนที่เป็นคนไทย กลุ่มนี้เขามีการเอากล้องถ่ายรูป กล้องวิดีโอลงไปถ่ายรูปใต้น้ำด้วย เราเกือบจะมีวีรกรรมกับกลุ่มนี้ด้วย เพราะมีอยู่ไดฟ์หนึ่งบัดดี้ของแป๊บเขาเอาฉลามปลอมลงไปดำด้วย รู้สึกจะเป็นที่เกาะบอน (หรือตาชัย?) แถมมีการเคาะแท็งค์เรียกให้เพื่อนดูอีกต่างหาก เราได้ยินเสียงแก๊งๆ หันไปดู ดีว่าเขาอยู่ไกลจากเรามาก เราเลยไม่ได้ว่ายไปดู ไม่งั้นอาจมีการฆ่ากันใต้น้ำได้ ฐานหลอกให้ว่ายน้ำไปหาเก้อ

มีกลุ่มที่มาเป็นครอบครัวด้วย คือพี่อูกับพี่เปิ้ล และลูกชายชื่อ จีน อายุ ๘ ขวบ น้องจีนจะมีเอกลักษณ์คือ ก่อนจะพูดหรือทำอะไรจะต้องทำท่าร้องไห้เหมือนชินจังพร้อมทำเสียงฮือๆ ประกอบ พี่เปิ้ลเอากล้องวีดิโอลงไปถ่ายใต้น้ำด้วยเหมือนกัน และเอามาให้พวก ในระหว่างที่พักระหว่างไดฟ์ด้วย นอกจากได้ดูปลา ปะการังแล้ว ยังได้ดูการใบ้คำใต้น้ำด้วย โดยคนที่ใบ้คำคือคุณอ้อย แฟนคุณอาร์ต คือระหว่างที่ดำๆ ไปคุณอ้อยหาคุณอาร์ตไม่เจอ ก็เลยหันมาทำท่าใบ้ให้ดู โดยเอามือชี้ๆ ที่หัว แล้วก็เอามือวนๆ ชี้ๆ ตรงหน้า แล้วก็เอามือสองข้างขึ้นมาส่ายสะบัดไปมา (ทำท่าบ๋อแบ๋) พี่เปิ้ลสุดฉลาดก็เข้าใจคำใบ้ในทันที อ๋อ.. -หัว-หน้า-ไม่มี- คือ Leader หายนั่นเอง (คุณอาร์ตเป็น Leader ของกลุ่มนี้ ) ปรากฎว่าที่จริงหัวหน้าไม่ได้หายไปไหน แต่ว่ายน้ำอยู่หลังคุณอ้อยนั่นแหละ พี่เปิ้ลก็เลยชี้ให้ดู ก็เลยหากันเจอ

คนอื่นๆ ที่ไปด้วยกันแบบมาเป็นคู่คือ พี่กอล์ฟ กับจิง เป็นแฟนกัน และกำลังจะแต่งานเร็วๆ นี้ พี่กอล์ฟมีฝีมือในการวาดรูป Dive Site Profile มาก เราเลยขอให้ช่วยฝากฝีมือไว้ใน Log Book ของเราด้วย ๑ รูป ส่วนอีกคู่หนึ่งเป็นคู่เพื่อน คือ พี่หลินกับน้องเดียร์ ทั้งสองคนนี้เรียนดำน้ำกับคุณอาร์ต น้องเดียร์น่าจะรุ่นเดียวกับแป๊บเพราะได้ยินแว่วๆ ว่ารหัส ๓๕ เหมือนกัน แต่รู้สึกแป๊บจะอายุน้อยกว่า พี่หลินเป็นคนตัวโตหัวเราะเสียงดังและแถมยังไปมีเรื่องชกต่อยกับคนอื่นๆ ใต้น้ำมากที่สุด

คนที่เป็นเหยื่อศอกเข่าของพี่หลินบ่อยที่สุดก็เห็นจะเป็นพี่แมว ที่มาดำน้ำแบบลุยเดี่ยว คนในกลุ่มเราจำไม่ได้แล้วว่าเป็นพี่หนิงหรือพี่ปุ๊ก บอกว่าเห็นพี่แมวบนเครื่องบินปุ๊บก็เดาได้เลยว่าแกมาดำน้ำแน่ๆ อาจจะเป็นเพราะทรงผมที่มีเอกลักษณ์ของแกก็ได้ เพราะแกไว้ผมตรงท้ายทอยเสียยาวเชียว แล้วก็ถักเป็นเปีย เสียอยู่หน่อยเดียวผมหงอกเยอะไปหน่อย พี่แมวดำน้ำมาค่อนข้างเยอะ รู้สึกจะสอบ Advance ได้แล้ว แกมีมุขเกี่ยวกับเรื่องดำน้ำเยอะเชียว เวลาเล่าไปก็ทำหน้าตายๆ แต่บางทีก็มีเทคนิคแพรวพราวทำท่าประกอบ ก็ขำๆ ดี

(อ่านต่อ ที่ Part II)