The Guardian
ช่วงที่ผ่านมาเรากรี๊ดพี่นิค แฟลลินจาก The guardian เป็นอันมาก (เป็นคอร์ทรูมดรามาทางยูบีซีช่องฮอลล์มาร์ค ที่เราดูนี่เป็นซีรี่ส์ ๒ เราไม่ได้ดูตั้งแต่ซีรี่ส์ ๑ เพราะตอนนั้นไม่เห็นว่าน่าสนใจ แต่ตอนนี้กำลังหวังว่าพอจบซีรี่ส์ ๒ แล้วระหว่างรอซีรี่ส์ ๓ เขาจะเอา ซีรี่ส์ ๑ มารีรันให้เราดูมั่ง) เราไปเสิร์ชหาทางอินเทอร์เน็ต เว็บที่เป็นทางการของซีบีเอสไม่ค่อยมีข้อมูลอะไร มีแค่บอกสรุปพล็อตเรื่อง บอกชื่อตัวแสดง คาดว่าเป็นเพราะซีบีเอสตัดสินใจยกเลิกโชว์นี้ไปแล้ว หลังจากทำมาได้ ๓ ซีรี่ส์ (ฮือๆๆๆ)

พอเห็นซีบีเอสไม่มีข้อมูลมาก เราก็เลยต้องหาข้อมูลที่อื่น ไปเสิร์ชเจอเว็บชื่อ simonsphere ที่ geocities ที่มีข้อมูลเพียบเลย ตอนแรกเราไม่แน่ใจว่าคนทำเป็นใคร แต่หลังจากอ่านๆ ไปได้พักหนึ่ง เราเดาว่าคนทำเว็บนี้ต้องเป็นผู้หญิง และประมาณว่ากรี๊ดพี่นิคสุดๆ เหมือนกัน เพราะเขามีทำบทพูดและวิจารณ์แต่ละตอน ที่มีนับเวลาว่าพี่นิคออกมากี่นาที มีบทพูดหรือไม่มี คิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของแอร์ไทม์ แถมมีให้คะแนนเป็น “พริก” สำหรับตอนที่ฮ็อตมาก (ประมาณว่าพี่นิคมีบทเซ็กซี่ ถอดเสื้อโชว์กล้าม อะไรประมาณนี้)

หลังจากอ่านสองเว็บนี้แล้วถึงได้รู้เบื้องหน้าเบื้องหลังว่าเรื่องราวเป็นไงมาไง คือพี่นิคเนี่ย เป็นทนายความหนุ่มรูปหล่อพ่อรวย แต่เสียคนไปหน่อยเลยโดนจับเนื่องจากใช้โคเคน พอขึ้นศาลก็อาศัยว่าพ่อมีเส้นสายก็เลยเจรจาขอให้ลูกทำงานช่วยเหลือสังคมแลกกับการไม่ต้องติดคุก เขาก็เลยไปเป็นทนายให้กับ Legal Service of Pittsburgh เป็นศูนย์ช่วยเหลือทางกฏหมายให้กับเด็กและคนยากจน ในขณะเดียวกันก็ทำงานเป็นทนายในบริษัทที่พ่อตัวเองเป็นเจ้าของ (Fallin & Fallin) ประมาณว่าทำงานทั้งในโลกของบริษัททนายคนรวยที่มุ่งเน้นเงินเป็นหลัก ไปพร้อมๆ กับในบริษัททนายสังคมที่มุ่งมวลชนและคนทุกข์ยาก

โปรดิวเซอร์ของโชว์นี้ (David Hollander) เขาตั้งใจจะสร้างบุคคลิกที่แปลกแยก แบบว่าเป็นคนที่ไม่ได้เป็นฮีโร่ ๑๐๐% เหมือนเป็นคนธรรมดาๆ ที่มีดีมีชั่ว มีเห็นแก่ตัว–มีเห็นแก่ความถูกต้อง ด้านมืดกับด้านสว่างมันผสมปนเปกันจนแยกไม่ออก เขาบอกว่า ต้องการจะทำให้คนดูรู้สึกว่านิค ไม่ได้เป็นคนดีตลอดเวลา ไม่ได้ตัดสินใจถูกทุกครั้งไป แต่คนก็ยังเห็นใจและเข้าข้างนิค เราดูแล้วก็เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง เราว่าคนเรามักจะต้องเจอสภาพที่ต้องตัดสินใจว่า จะทำเพื่อความถูกต้องหรือจะทำไปตามความต้องการหรืออารมณ์ของตัวเองดี เป็นความขัดแย้งที่บอกไม่ได้แน่ชัดว่าอันไหนถูกอันไหนผิด ซึ่งบางทีก็น่าสนใจกว่าสิ่งที่เราสามารถบอกว่าถูกหรือผิดอย่างชัดเจน

ชักแหง่กๆ

ตอนที่ไปเที่ยวกับบริษัท วันที่จะกลับเรากำลังเก็บของ รอขึ้นรถกลับ ได้ยินเสียงดังปึ้งที่กระจกหน้าต่าง คิดว่ามีใครขว้างอะไรมาโดน พอลุกไปดู เห็นนกตัวเล็กๆ สีเหลืองๆ นอนหงายท้อง ทำขาชักแหง่กๆ อยู่ เรามองแล้วก็ไม่รู้จะทำยัง ลังเลว่าจะอุ้มมันไปหาใครดี จะหาพวกเราที่เป็นสตาฟ หรือหาเจ้าหน้าที่ ก็ไม่รู้ว่าเขาจะสนใจหรือจะทำอะไรได้เท่าไหร่ อีกอย่างก็กลัวอุ้มไปแล้วมันตายคามือด้วย คิดๆ แล้วก็เลยไม่ทำอะไร ยืนดูท่าทีมันอยู่พักใหญ่ มันก็ทำขาชักแหง่กอยู่อย่างนั้น

จนหลายนาทีผ่านไป มันก็กระโดดพลิกตัวขึ้นมายืน เราก็โล่งใจว่ามันไม่ตายเว้ยเฮ้ย... แต่มันคงยังมึนอยู่มาก (ก็ชนกระจกเสียงดังปึ้งซะขนาดนั้น) ก็เลยยืนทำคอยึกๆ ยักๆ อยู่อีกเป็นนาน เราจะรอดูว่ามื่อไหร่มันจะบินไป จะบินยังไง แต่มันก็ไม่ไปซักที เราก็เลยมาเก็บของต่อ พอเก็บของเสร็จ ก็ไปดูว่านกยังอยู่หรือเปล่า ปรากฎว่ามันหายไปแล้ว ทิ้งกองอึเหลวๆไว้สองกอง แสดงว่ามันบินชนแรงมากๆ ชักกระแหง่กๆ แถมจุกจนอึแตกอีกตะหาก