Postal Services
วันก่อนโน้นหมูบอกว่า ส่งการ์ดวันเกิดมาให้เราตั้งนานก็ยังไม่ถึงซักที รอไปรอมาอยู่หลายอาทิตย์หมูก็บอกว่าจดหมายโดนตีกลับไปที่บ้านหมู หมูก็เลยถามที่อยู่เราเพราะนึกว่าเขียนที่อยู่ผิด พอเราบอกไปที่อยู่ไป มันก็ตรงกับที่อยู่ของเราที่หมู เราก็เลยปล่อยมุขไปเล่นๆ ว่า สงสัยหมูลืมเขียนว่า THAILAND มั้ง ปรากฏว่าหมูไม่มุขกับเราด้วย เพราะลืมเขียน THAILAND จริงๆ แล้วก็บ่นว่าไปรษณีย์ที่อเมริกาไม่เก่งเลย สู้ไปรษณีย์ที่อังกฤษไม่ได้ แต่เราว่าจะโทษว่าไปรษณีย์ที่อเมริกาไม่เก่งไม่ได้หรอก เพราะนอกจากหมูจะลืมเขียนหน้าซองว่า THAILAND แล้ว ส่วนอื่นๆ ของที่อยู่ของเราหมูก็เขียนเป็นภาษาไทยเสียอีก อะโห... แล้วมันจะส่งถึงได้ไงฟะ ต่อให้ไปรษณีย์เก่งกาจก็ไม่น่าเดาได้ว่าตัวยึกๆ ยือๆ ที่อยู่หน้าซองมันเป็นภาษาไทย แถมเมืองที่หมูอยู่ก็บ้านนอกเชียว ถ้าอยู่แอลเอก็อาจจะพอมีโอกาสส่งถึง เพราะไปรษณีย์อาจจะเคยผ่านตากับภาษาไทยบ้าง

พอพูดถึงไปรษณีย์ที่อังกฤษว่าเก่ง เราก็ต้องยอมรับจริงๆ คือ พยายามส่งจดหมายให้ถึงมือผู้รับให้ได้ ตอนที่เราไปเรียนที่อังกฤษเราเคยได้รับโปสการ์ดจากรุ่นพี่สองคนที่เขาไปเที่ยวนิวซีแลนด์ ก่อนหน้านั้นเวลาเราไปเที่ยวเราก็จะส่งโปสการ์ดไปให้เขาอยู่เนืองๆ พอเขาได้ไปเที่ยวก็เลยคิดจะส่งให้เราเป็นการตอบแทนบ้าง ก็เลยโทร.ไปถามที่อยู่เราจากเพื่อนอีกคนหนึ่ง (อันนี้นี่เดาเอาหลังจากเห็นที่อยู่ที่เขาเขียนอ่ะนะ)

โปสการ์ดที่ส่งถึงเราจ่าหน้าแบบนี้

83 ROOM 3 Vroad
Court 160 Vroad Lane
Sheffield S 14 BU
UK

แต่ที่อยู่เราที่ถูกคือ

Flat 13 Room 3
Broad Lane Court
160 Broad Lane
Sheffield S1 4BU
UK

ที่เดาได้ว่าเป็นการโทรศัพท์ถามที่อยู่ก็ เพราะ แฟลตสิบสาม (Flat 13) ก็กลายเป็น แปดสิบสาม (83) ส่วน B-R-O-A-D ก็กลายเป็น V-R-O-A-D กว่าโปสการ์ดใบนี้มันจะมาถึงเรา มันคงเดินทางไปโน่นไปนี่ใน Sheffield พักใหญ่ สุดท้ายไปรษณีย์ก็เลยส่งไปหา International Student Office (เขาคงเดาได้ไม่ยากว่าพวกจดหมายและโปสการ์ดที่เขียนที่อยู่ผิดๆ ถูกๆ และส่งมาจากต่างประเทศนี่ต้องเป็นเด็กนักเรียนต่างชาติแน่ๆ) ยังดีที่รุ่นพี่เราเขาเขียนชื่อกับนามสกุลเราถูก ที่ International Student Office เขามี Record ว่าเด็กนักเรียนต่างชาติพักอยู่ที่ไหนบ้าง ถึงได้ส่งหาเราถูก

ความจริงจะว่าไปแล้ว มันคงเป็นสามัญสำนึกของไปรษณีย์ทุกที่ไม่ว่าประเทศไหนก็ตาม ที่จะพยายามส่งจดหมายหรือพัสดุให้ถึงที่หมาย ไม่ว่าที่อยู่จะไม่ครบถ้วนสมบูรณ์หรือไม่ถูกต้องเขาก็จะพยายามอย่างถึงที่สุด ถ้าเป็นเมื่อก่อน มันก็เป็นเรื่องดี แต่วันก่อนเราอ่านเรื่อง การโกงทางอินเตอร์เน็ต (จำไม่ได้ว่าจากไทม์หรือจากฟอร์จูน) ปรากฏว่ามีเอาความพยายามเป็นพิเศษของไปรษณีย์ไปใช้ในทางที่ผิดเสียนี่

เรื่องมันมีอยู่ว่า เขาพบว่า การโกงทางอินเตอร์เน็ต ส่วนใหญ่จะเกิดจากอินโดนีเซีย คือ ที่นั่นเขามีเว็บไซต์ใต้ดินที่ให้พวกแฮ็กเกอร์ (หรือจะเรียกว่า แคร็กเกอร์ ดี) เข้าไปแล้วก็สามารถจะรันโปรแกรมให้สร้างเบอร์บัตรเครดิตปลอมขึ้นมา (หรือ แจกเบอร์บัตรเครดิตจริงๆ ที่ขโมยมาจากเว็บไซต์อื่นๆ) พวกแคร็กเกอร์ก็จะเอาเบอร์บัตรเครดิตนี้ ไปสั่งซื้อของตามเว็บไซต์ต่างๆ โดยให้ส่งของไปที่อินโดนีเซีย เว็บไซต์ส่งของไปให้แล้วแต่เรียกเก็บเงินจากบัตรเครดิตไม่ได้ ตอนหลังๆ บางเว็บไซต์ (ที่โดนโกงบ่อยๆ) ก็เลย “แบน” ประเทศอินโดนีเซีย คือ ถ้าให้ส่งของไปที่ อินโดนีเซีย เขาจะไม่ทำรายการให้ (ตอนหลังๆ มีการแบนประเทศอื่นๆ ในเอเชียอีกด้วย) ปรากฏว่าพวกแคร็กเกอร์ก็หัวใส หาวิธีเลี่ยงโดยกรอกที่อยู่ไปว่า Jakarta, Australia บ้าง East Java, Japan บ้าง North Sumatra, Germany บ้าง พอของถูกส่งออกไป ไปรษณีย์เห็นที่อยู่ก็นึกว่าใส่ชื่อประเทศผิด ก็แก้ให้แล้วก็ส่งไปที่ที่อยู่ของแคร็กเกอร์

ตอนหลังๆ พวกเว็บไซต์ ก็เลยต้องใช้วิธีไม่ส่งของถึงบ้าน แต่จะให้ไปส่งที่จุดรับของ (คล้ายๆ กับส่งไปที่ตู้ปณ.) แล้วให้เจ้าของไปรับของด้วยตัวเอง โดยจะต้องแสดงบัตรประจำตัวด้วย เว็บไซต์ที่ใช้วิธีส่งแบบนี้ก็อย่าง amazon.com (ซึ่งไม่มีจุดรับของในประเทศอินโดนีเซีย!) หรือบางเว็บไซต์ก็จะใช้วิธีเช็คว่า ถ้าที่อยู่ที่ให้ส่งใบเสร็จรับเงิน (ซึ่งคนซื้อต้องกรอกตอนจะซื้อของ) เป็นคนละที่กับที่อยู่ที่ให้ส่งใบเรียกเก็บเงินบัตรเครดิต (เป็นที่อยู่ที่มีอยู่ใน Database ของบัตรเครดิต) เขาจะไม่ Approve Transaction ครั้งนั้น เพราะ เดาเอาไว้เลยว่า เป็นบัตรเครดิตที่ขโมยมา

ขึ้นต้นเป็นเรื่อง จดหมาย ลงท้ายเป็นเรื่องโกงบัตรเครดิตทางเว็บไซต์ เสียได้ ... อืมม์... จบดีกว่า