19 Flights
ปวดน่องมา 2 วันแล้ว เพราะต้องเดินบันได 19 ชั้น....

วันอาทิตย์ที่ผ่านมาเราต้องเข้าไปที่ออฟฟิศ ไป Shutdown Server และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เพราะที่ตึกเขาจะดับไฟ 16 ชั่วโมง (ตั้งแต่แปดโมงเช้าถึงเที่ยงคืน) ระบบสำรองไฟมีสำรองสำหรับห้อง Server ของบริษัทเราแค่ครึ่งชั่วโมง เราดันเป็น IT โง่ๆ ก็เลยตั้งเวลา Shutdown Server ไม่เป็น แล้วอีกอย่างหนึ่งที่ผ่านมาเขาเคยมีอุปกรณ์เน็ตเวิร์คพัง เพราะไฟดับนานๆ แล้วไม่ได้ปิดอุปกรณ์ Voltage ของระบบสำรองไฟมันลดลงจนต่ำกว่าที่อุปกรณ์จะรับได้ ปรากฏว่า Switch พัง (หมายถึง Network Switch ที่ทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์หลายๆ เครื่องเข้าด้วยกัน เทือกๆ เดียวกับพวก Hub, Router ฯลฯ อ่ะนะ) ค่า Switch นั่นก็หลายหมื่นบาทหรือจะถึงแสนด้วยซ้ำ ตอนนั้นเรายังไม่ได้มาทำงาน IT หรอกนะ แต่เห็นเรื่องจากอีเมล์เก่าๆ คราวนี้เราไม่แน่ใจ เราก็เลยไม่กล้าปล่อยมัน ยอมเสียเวลาเข้าไปปิดมันดีกว่า ปลอดภัยไว้ก่อน

ก่อนหน้าวันที่ไฟจะดับ เราก็ติดต่อกับพวกที่ดูแล Server, WAN, LAN ที่เมืองนอก ขอข้อมูลเขาว่าต้องทำยังไงบ้าง หลังจากที่เราบอกไปว่า เราไม่ใช่ IT มืออาชีพนะ เขาให้ Instruction ละเอียดยิบ (เพราะตอนแรกเขาบอกมาคร่าวๆ เราก็ถามๆๆๆ จนเขาคงรำคาญ เลยร่ายมายาวเหยียด Step-by-step) แต่การทำอะไรครั้งแรกมันมักจะต้องฉุกละหุก จนวันศุกร์แล้วรายละเอียดบางอย่างก็ยังไม่สรุป เรื่องที่ค้างๆ อยู่ก็คือว่า อุปกรณ์บางตัวเราหา สวิตช์ปิดเปิดไม่เจอ (คือโง่ๆ อย่างเรา แค่รู้ว่าอุปกรณ์ตัวไหน เป็น Switch เป็น Router ก็เก่งแล้วอ่ะนะ) เรากลัวว่าถ้าถอดปลั๊กออกเลยเดี๋ยวไฟมันจะกระชาก เกิดอุปกรณ์มันดัน Sensitive มากเจ๊งขึ้นมาก็ซวย แต่พอถามๆ ไปคนทางโน้นก็ไม่ค่อยรู้เหมือนกัน เพราะอุปกรณ์พวกนี้มันมีหลายรุ่นมาก บางรุ่นก็มีสวิตช์ปิดเปิด บางรุ่นก็ไม่มี แถมเราหา Network Switch ตัวหนึ่งไม่เจอ แต่ก็นึกว่าเอาวะ ไม่มีทางเลือกแล้ว ทำเท่าที่ทำได้แล้วกัน อย่างมากก็แค่ทุกคนในออฟฟิศไม่ต้องทำงานตอนเช้าวันจันทร์

วันอาทิตย์เราเข้าไปที่ออฟฟิศหกโมงครึ่ง ก็มีเรื่องให้ตื่นเต้นเล็กน้อย ก่อนหน้านี้ที่เมืองนอกเขาสร้าง Account กับให้ Password มา ให้เราเอาไว้ Log on เข้าไปที่ Server แล้ว ปิดพวก Service ต่างที่ยัง Run อยู่ เราก็ให้น้องอีกคนหนึ่งที่ไปช่วยเป็นคนจัดการ ปรากฏว่าน้องมาบอกว่า “พี่ๆ Log on เข้า Mail Server ไม่ได้” (ความจริง Server ตัวอื่นๆ ที่ไม่ใช่ Mail Server ไม่ต้องปิด Service แค่ Log on เข้าไปแล้วสั่ง Shutdown เฉยๆ ถ้า Log on ไม่ได้ ก็คิดว่าน่าจะสั่ง Shutdown จากหน้าจอที่ให้ Log on ได้เลย แต่ Mail Server นี่เขาสั่งว่าต้องปิด Service ให้หมดก่อนแล้วค่อย Shutdown เราก็เลยไม่กล้า Shutdown จากหน้าจอ Log on)

ก่อนหน้านี้ตอนที่ได้ Account กับ Password มาเราก็กลัวๆ อยู่เหมือนกันว่า Password ที่เขาให้มาจะไม่ Work เราก็เลยลอง Log on เข้าไปที่ Server ก่อนวันที่จะไฟดับ แต่ดันไม่ได้ลองทุกตัว ตัวที่ไม่ได้ลองก็คือ ไอ้ Mail Server ตัวนี้แหละ เพราะเราไม่อยากไปยุ่งกับมันเท่าไหร่ เพราะเรารู้ว่ามีคนใช้งานมันตลอดเวลา เผื่อเราโง่ๆ ไปทำอะไรพลาด Mail Server Down เราโดนด่าหูชาแน่ๆ ปรากฏว่า Server ตัวอื่นที่เราลอง Log on เข้าไปก็เข้าได้เราก็เลยคิดว่า Mail Server ก็ไม่น่าจะมีปัญหา ความจริงเราก็เกือบจะเซ็งแล้ว แต่นึกถึง Murphy’s Law ขึ้นมาได้ ก็เลยเปลี่ยนเป็นเลยขำๆ แทน

พอ Shutdown เองไม่ได้ เราก็เลยโทรศัพท์ไปที่เมืองนอก (บริษัทอินเตอร์อ่ะนะ มี Help Desk ตลอด 24 ชั่วโมง) ตาคนที่รับโทรศัพท์เราเสียงคุ้นหูมาก เพราะเขาเป็นคนที่รับหน้าช่วงกะดึก (ของที่เมืองนอก) เราโทรไปทีไรก็จะเจอตาคนนี้ทุกทีไป เราก็บอกว่า เนี่ย ไฟที่ตึกเราจะดับ เราต้อง Shutdown Mail Server แต่เรา Logon เข้า Server ไม่ได้ ช่วยตามคนมา Shutdown ให้เราที ไฟจะดับภายใน 25 นาทีนี้แล้วนะ พออีกประมาณ 10 นาทีต่อมา เราโทรไป เขาตามคนดูแล Mail Server มาได้แล้ว ก็ให้เขา Remote Log in เข้ามา Shutdown ให้เรียบร้อย

หลังจาก Shutdown Server เราหมดก็ไล่ปิดอุปกรณ์ตาม Checklist ที่เราทำไว้ น้องคนที่ไปช่วยก็บอกว่า พี่ๆ น่าจะปิด Printer ด้วยนะ ตัวเขาไล่ปิดไปแล้วส่วนหนึ่ง เราก็เลยไปเดินไล่ปิดอีกฟากหนึ่งของตึก ปรากฏว่าเดินไปเจอ Rack อะไรหน้าตาคุ้นๆ ก็เลยเข้าไปดู อ้าว... เฮ้ย!! นี่มัน Switch ที่เราหาอยู่เป็นนานไม่เจอนี่นา มาหลบอยู่ตรงนี้นี่เอง ความจริงเราก็เดินผ่านตรงนั้นหลายครั้งมากๆ แต่ก็ไม่เคยสังเกตเห็น Rack กับ Switch มาก่อน ก็เลยจัดการปิดมันไปด้วย ตอนแรกเราตัดมันออกจาก Checklist ของเราไปแล้วด้วย นี่ถ้าไม่มาเดินปิด Printer ก็คงหาไม่เจอ

พอปิดอุปกรณ์เสร็จก็ต้องรอให้ช่างของบริษัทที่ดูแลระบบตู้โทรศัพท์สาขาเขา Shutdown ตู้ กว่าจะเสร็จก็ปาเข้าไป 8 โมงครึ่ง เราดูไฟแสงสว่างในออฟฟิศยังไม่ดับก็ดีใจ คิดว่าทางตึกเขาคงยังไม่ได้เริ่มตัดไฟ แต่ที่ไหนได้ เดินออกไปกดลิฟท์มันก็ไม่ติด เลยต้องเดินลงทางบันไดหนีไฟ บริษัทเราอยู่ชั้น15 อ่ะนะ ตอนขามาเราจอดรถไว้ที่ชั้น 4 (ที่จอดของบริษัท) พอต้องเดินลงก็เสียดายว่าน่าจะเอารถมาจอดรถที่ชั้น 10 หรือชั้น 11 เพราะบันไดหนีไฟมีทางออกไปที่จอดรถได้ แต่พอเดินไปถึงชั้น 11 เขาล็อคประตูออกที่จอดรถ แล้วก็ล็อคไปหมดทุกชั้นเลย ก็เลยต้องลงไปถึงชั้นล่างก่อน แล้วเดินกลับขึ้นบันไดที่จอดรถมาอีก 4 ชั้น ช่างที่มา Shutdown ตู้โทรศัพท์ซวยกว่าเราอีก เพราะจอดรถไว้ที่ชั้น 10 (เป็นที่จอดรถสำหรับคนที่มาติดต่ออาคาร) เราเดินขึ้นมาถึงที่รถ ต้องมานั่งถอนหายใจอยู่หลายที ขาดการออกกำลังกายจริงๆ เลยเรา

วันจันทร์เราไปเปิดอุปกรณ์แต่เช้า ก็ใจตุ๊มๆ ต่อมๆ แต่ปรากฏว่าก็ไม่มีอะไรผิดพลาดมาก เราเปิดอุปกรณ์ผิด Sequence ไปหน่อย ปรากฏว่า RAS Server ใช้งานไม่ได้ ยังดีที่มันเป็น Server ที่ให้คนที่ Site โทรผ่านโมเด็มเข้ามาที่ออฟฟิศ มีคนใช้ไม่เยอะและปกติมันก็ห่วยๆ อยู่แล้ว (ส่วนใหญ่เป็นปัญหาที่สายโทรศัพท์) พอคนที่ Site เขาโทรมาถามเราว่า Network Down หรือเปล่า เราให้น้องเขาเช็คจากทางออฟฟิศ ปรากฏโทรไม่ได้เหมือนกัน ก็เลยต้องเข้าไปเช็ค ก็ไม่รู้จะทำยังไง เพราะไม่รู้ว่าทำไมมันถึงใช้งานไม่ได้ สุดท้ายก็เลย Restart Server ขึ้นมาใหม่ มันก็ใช้ได้ตามปกติ... เฮ้อ... รอดตัวไป

ตอนเย็นวันจันทร์เดินลงบันไดที่จอดรถที่คอนโด ก็รู้สึกว่าปวดตึงๆ ที่น่อง ผลของการเดินขึ้นลงบันได 19 ชั้น... งาน IT นี่ “หนัก” ไม่ใช่เล่นเลยนะเนี่ย...