One Hell of A week
สัปดาห์ที่ผ่านมางานเยอะสุดๆ ก่อนจะไปเสม็ดเราก็ทิ้งงานไปดื้อๆ คือมีงานที่เราต้องทำให้เสร็จ เราก็ทำเสร็จ แต่ไม่ให้โอกาสเช็ค คือเสร็จเอาเย็นวันพฤหัส แล้วตั้ง Auto Reply ใน Outlook ว่าเราจะลาพักร้อน กลับมาอีกทีวันจันทร์และจะไม่เช็คอีเมล ถ้างานเราผิดต้องแก้ไข เขาก็ต้องแก้เอง :P

วันจันทร์กลับมาฟ้าดินก็เลยลงโทษ เจองานเอกสารบ้าๆ ที่ทำเอาเราหัวฟูไปครึ่งวัน (ส่วนอีกครึ่งวันที่เหลือก็แอบเขียนเล่าเรื่องไปเที่ยวเสม็ด... :P)

วันอังคารฟ้าดินเลยลงโทษอีกรอบหนึ่ง ทาง KC จะ Issue Drawing ให้ลูกค้า เขาบอกว่าต้องการให้อัพเดท Drawing ทั้งหมดเสร็จพร้อม Issue ภายในวันพุธของเรา ตอนที่ KC ส่งอีเมลมาคือเย็นวันจันทร์ของเขา แต่เรารู้ว่ายังไงก็ไม่ทันเด็ดๆ เพราะพอเราอัพเดทเสร็จเขาก็ต้องเช็ค แล้วก็ต้องมีการแก้ไข (แน่ๆ) เราก็ต้องเก็บงานอีกรอบ

เราจะทำ Mission Impossible นี้สำเร็จได้ก็ต่อเมื่อเขาส่งคอมเมนต์มาให้เราภายในวันนั้น "ทั้งหมด" (หมายถึงว่าทั้งหมดจริงๆ ห้ามแก้ไขเพิ่ม) และเราต้องสามารถหาคนอัพเดท Drawing ให้เสร็จภายในเย็นวันนั้น แต่ปรากฏว่าเขาส่งคอมเมนต์มาแค่ครึ่งเดียว ซึ่งก็เยอะเกินไปสำหรับเราแล้ว โชคยังดีที่มีคนอื่นๆ ว่างอยู่บ้าง เราก็เลยรีบแจกงาน แต่ก็ทำเอาเราต้องอยู่ถึงสามทุ่ม

วันพุธเราได้คอมเมนต์ระรอกสอง ก็ทำให้เขาจนเสร็จ (แต่งานจริงๆ ยังไม่เสร็จหรอก เพราะยังต้องมี Drawing อีกหลายแผ่นที่เขายังไม่ส่งคอมเมนต์มา ซึ่งเราก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะงานไม่เสร็จตามจุดมุ่งหมายเพราะทางเขา ไม่ใช่เรา) ตอนออกจากออฟฟิศก็ปาเข้าไปสามทุ่มครึ่ง เดินๆ ก็รู้สึกว่าแขนจะเป็นตะคริว แต่ก็คิดว่าคิดมากเกินไป คงแค่เมื่อยๆ เฉยๆ

พอกลับบ้านก็หิวตาลาย จะทำสลัดกิน (ที่จริงน่าจะกินมาม่าช้อนสั้นนะ จะได้รันทดสุดๆ ไป แต่เผอิญเราไม่ได้อยู่ในอารมณ์รันทด อิอิ) หั่นผักเสร็จก็จะเอาไปแช่ตู้เย็นให้ผักกรอบๆ ยกชามสลัดไปยังไม่ทันถึงตู้เย็นก็ร่วงโครม ชามแตกเป็นเสี่ยงๆ นี่แขนเราหมดเรี่ยวหมดแรงจริงๆ (คนที่เคยเห็นครัวเรา คงรู้ว่าหมายความว่ายังไง ก็ตรงอ่างล้างมือที่หั่นผักหนะ กลับหลังหันมาก็ตู้เย็นแล้วอ่ะ) เลยต้องเก็บเศษชาม เก็บผักไปล้างใหม่ก่อนจะได้กิน

วันพฤหัสกับวันศุกร์สถานการณ์เรื่องงานก็ไม่ได้ดีขึ้น เลิกสามทุ่มอีกตามเคย ทั้งๆ ที่เราคิดว่าวันศุกร์จะเป็นวันสบายๆ (เงินเดือนออกด้วย อิอิ) เพราะมีแค่คอมเมนต์เล็กๆ น้อยๆ คอมเมนต์หนักๆ ก็เป็นงาน Chemical ซึ่งมีคนช่วยทำ แต่ Murphy ก็ออกมาร่วมแจม (อีกจนได้) เพราะงานของ Chemical เขาดันเขียนคอมเมนต์ผิด เวรกรรมจริงๆ

คือปกติเราก็ด่าๆ แผนก Chemical อยู่แล้วว่ามั่วสุดๆ คือ งาน Chemical ในโรงไฟฟ้า มันไม่ค่อยมีอะไรเลย ซื้ออุปกรณ์มาตั้งๆ ก็เสร็จแล้ว แต่เขาก็จะชอบทำให้มันดูยากเย็น จะชอบไปบอก Vendor ว่าจะเอาอุปกรณ์แบบนั้นแบบนี้ ก็เขาไม่ทำขายอ่ะ เขาทำแบบนี้ขาย จะเอาไหม สุดท้ายก็ต้องมาแก้ๆ ตามอุปกรณ์ที่เขาขายให้อยู่ดี

แต่ที่คอมเมนต์ผิดวันนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่บ่นไปเท่าไหร่ แต่มันเป็นความเบลอ (หรือว่าความบื้อดี?) ของคนที่เขียนคอมเมนต์ พี่ที่ช่วยเราอัพเดทเขาก็ทำไปจนเสร็จแล้วถึงมาเอะใจว่ามันแหม่งๆ มาช่วยกันไล่อีกรอบหนึ่งก็เห็นตรงกันว่ามันผิด ต้องแก้ ตอนที่รู้นี่สี่โมงเย็นแล้ว พี่เขาเข้าทำงานกะเช้า (เราเรียกเป็นกะๆ เอาเอง ที่จริงบริษัทเรียกว่า Flexible Time) คือมาเจ็ดโมงเลิกสี่โมง

ทีแรกพี่เขาก็จะทำต่อให้ แต่เราเห็นว่าจะยาว ท่าทางเขาก็มีธุระด้วย เราเกรงใจก็เลยบอกว่าไม่เป็นไร เราทำต่อเอง กว่าจะเสร็จก็เกือบทุ่ม แล้วก็ต้อง Issue ต้องตอบอีเมล ต้อง ฯลฯ กว่าจะเสร็จจริงๆ ก็เกือบสามทุ่ม หมดไปอีกหนึ่งสัปดาห์