My Homes
เรามีบ้านหลายหลังและย้ายบ้านบ่อยมากตั้งแต่จำความได้ เพื่อนๆ จะชอบนึกว่าบ้านเราอยู่ราชบุรี แต่ที่จริงเราอยู่ราชบุรีแค่ไม่กี่ปีเอง จริงๆ แล้วบ้านเราอยู่สมุทรสงครามมากกว่า (คือคิดตามเปอร์เซ็นต์ของเวลาที่อยู่) อย่างที่เคยเล่าไปแล้วว่าบ้านหลังแรกของเรา คือบ้านโรงไม้ อยู่ริมน้ำตรงข้ามกับวัดแก้วเจริญ (คลองหน้าบ้านเราเรียกว่า แควอ้อม ซึ่งแยกมาจากแม่น้ำแม่กลอง) โรงไม้อยู่ตำบลบางสะแก อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม ต่อมาเตี่ยก็ซื้อที่อีกที่หนึ่ง อยู่ริมคลองแควอ้อมเหมือนกันแต่อยู่คนละฝั่งกับโรงไม้ ห่างออกมาประมาณซักครึ่งกิโลได้ สมัยก่อนคนแถวๆ นั้นเขาเรียกที่นั่นว่า โรงสี เพราะเดิมที่ตรงนั้นเคยเป็นโรงสีข้าวมาก่อน โรงสีอยู่ตำบลเหมืองใหม่ อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม (อยู่คนละอำเภอกับโรงไม้ทั้งที่ห่างกันนิดเดียว เพราะเขาเอาคลองแควอ้อมเป็นเส้นแบ่งเขตอำเภอ) ตอนแรกที่โรงสีเป็นแค่ร้านค้าไม้เฉยๆ ไม่ได้เป็นบ้าน มีก๊อเล็กพี่ชายคนรองของเราอยู่ที่นั่นคนเดียว ตอนกลางวันเขาก็ขายของ กลางคืนเขาก็นอนเฝ้าด้วย เราจำได้ว่าแม่จะให้เก๋หรือเราขี่จักรยานเอาข้าวไปส่งให้ก๊อเล็กทุกวัน พอปิดเทอมเราไปช่วยขายของที่โรงสีบ้างเหมือนกัน ตอนหลังพวกเราก็ย้ายมาที่โรงสีกันหมด แล้วก็เลิกเช่าที่ที่โรงไม้ไป

พวกเรามาอยู่ที่โรงสีได้ไม่นาน เตี่ยก็ไปปลูกบ้านอีกหลังอยู่ที่ราชบุรี (รู้สึกว่าเราจะอยู่ประมาณป. ๓) เพราะเตี่ยกับอาสุก (น้องชายเตี่ย) ตกลงแบ่งกิจการที่บ้านกัน เตี่ยให้อาสุกเลือกว่าจะทำกิจการโรงไม้ที่โรงสีต่อไปหรือจะเอาเงินไปหาที่ทำกิจการใหม่ ตอนแรกอาสุกเขาเลือกจะทำโรงไม้ต่อ เตี่ยก็คิดว่าถ้างั้นเตี่ยจะไปเปิดร้านที่ราชบุรี ก็เลยไปปลูกบ้านอยู่ที่ในตัวเมืองราชบุรี (อยู่ในอำเภอเมือง แต่ไม่ได้อยู่ในตัวตลาด) ตอนนั้นเรากับเก๋ก็เลยต้องย้ายไปเรียนที่ราชบุรีด้วย (เราย้ายโรงเรียนตอนขึ้นป. ๔ เก๋ขึ้นป. ๖) ตอนหลังอาสุกเขาเปลี่ยนใจบอกว่าไม่ทำโรงไม้ต่อแล้ว เตี่ยก็เลยแบ่งเงินให้เขาไปก้อนหนึ่ง อวสุกเขาก็เลยเอาเงินไปเปิดร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้างที่จันทบุรี แล้วก็ตั้งรกรากอยู่ที่นั่นมาจนถึงทุกวันนี้

ความที่อาสุกเขาเปลี่ยนใจตอนสร้างบ้านที่ราชบุรีไปแล้ว และเราก็ย้ายโรงเรียนไปแล้ว พอสร้างบ้านเสร็จพวกเราก็เลยต้องย้ายไปอยู่ ก็ไปกันหมดยกเว้นก๊อเล็กที่ต้องอยู่เฝ้าโรงสีอีกตามเคย (หลังๆ นี้ คนเขาก็เลิกเรียกว่าโรงสีไปแล้ว เพราะคนเริ่มลืมไปแล้วว่ามันเคยเป็นโรงสีมาก่อน แม้แต่พวกเราเองเดี๋ยวนี้ก็เรียกที่นั่นว่า โรงไม้ เหมือนกัน) ตอนที่อยู่ที่บ้านที่ราชบุรีเตี่ยกับแม่ก็ต้องขับรถจากราชบุรีมาที่โรงไม้ที่วัดแก้วทุกวัน ตอนเย็นก็ขับรถกลับไปนอนที่ราชบุรี แม่กลุ้มใจและเบื่อกับการต้องไปๆ มาๆ ระหว่าง ๒ บ้านนี้มาก ก็เลยบอกว่าให้ขายมันไป บอกขายอยู่หลายปีกว่าจะสำเร็จ (ปรากฎว่าตอนที่ขายได้จริงๆ แม่ก็รู้สึกกลับเสียดายมันขึ้นมาอีก เพราะเราปลูกต้นไม้ไว้เยอะ มีส้มโอที่อร่อยมาก มีมะม่วงเขียวเสวย มะยม ฝรั่งเวียดนาม มะรุม มะพร้าว สาเก ฯลฯ ทุกอย่างโตจนออกลูกให้กินได้แล้วทั้งนั้น แถมปีต่อมาเศรษฐกิจก็บูม ที่ดินราคาพุ่งพรวดๆ แม่ก็ยิ่งเสียดายใหญ่ บอกว่าเราขายถูกไป แต่จริงๆ แล้ว แม่นั่นแหละเป็นคนที่พยายามทั้งลดทั้งแถม เพื่อให้ขายมันได้)

พอขายบ้านที่ราชบุรีไปแล้วเราก็ย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านที่โรงไม้วัดแก้วเหมือนเดิม ก็อยู่ที่นั่นเรื่อยมาจนต่อมามีคนมาบอกว่ามีโรงเลื่อยที่แม่กลองจะเลิกกิจการ (แม่กลองคือตำบลหนึ่งของอำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม) เตี่ยก็เลยไปซื้อต่อจากเขามา (ความฝันของเตี่ย--และอาจจะเป็นความฝันของเจ้าของโรงไม้ส่วนใหญ่ด้วย—ก็คือการได้เป็นเจ้าของโรงเลื่อย เหมือนคนที่ทำกิจการโรงค้าไม้เจริญแล้ว จะก้าวต่อไปข้างหน้าก็คือการเป็นเจ้าของโรงเลื่อยหนะ) โรงเลื่อยนี้อยู่ริมแม่น้ำแม่กลองตรงข้ามกับวัดเพชรสมุทร (วัดดังของแม่กลอง) เขามีแต่โรงงานกับออฟฟิศไม่มีที่นอน เตี่ยก็ต้องขับรถไปกลับระหว่างวัดแก้วกับแม่กลองทุกวัน (อีกแล้ว--จะเห็นว่าเตี่ยขับรถเยอะมาก เลยไม่แปลกที่เตี่ยจะชอบรถยุโรปและใช้รถยุโรปมาตลอด เตี่ยยอมจ่ายเงินแพงๆ ซื้อรถยุโรปเพราะคิดว่ามันคุ้มค่า รถคันแรกของเตี่ยรู้สึกจะเป็นยี่ห้อโฮลเด้นแต่เราจำมันไม่ได้ รถคันแรกที่เราจำได้ เป็นยี่ห้อวอลโว่ เตี่ยใช้วอลโว่อยู่หลายปี เปลี่ยนไปหลายรุ่นหลายคัน จนตอนที่มาเป็นเจ้าของโรงเลื่อยแล้วถึงได้เปลี่ยนไปใช้รถเบนซ์ ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งความฝันของเตี่ย)

ต่อมาเตี่ยหาซื้อที่ใหม่ใกล้ๆ กับโรงเลื่อยเดิม (คราวนี้ไม่ติดแม่น้ำแต่ติดถนน คือ ถนนปากท่อสายเก่านั่นเอง) ก็สร้างโรงงานกับออฟฟิศ แล้วก็สร้างบ้านด้วย (ความจริงออฟฟิศเป็นส่วนหนึ่งของบ้านต่างหาก) ความที่บ้านที่โรงไม้ที่วัดแก้วเริ่มจะคับแคบแล้ว เพราะก๊อเล็กก็แต่งงานมีลูกแล้ว พอบ้านที่โรงเลื่อยแม่กลองสร้างเสร็จ พวกเราย้ายมาอยู่ที่บ้านนี้กัน (แต่ก๊อเล็กและซ้อ พี่สะใภ้ของเรากับหลานๆ ก็ยังอยู่ที่โรงไม้ที่วัดแก้วเหมือนเดิม) ทุกวันนี้เตี่ยกับแม่ก็ยังขับรถไปๆ มาๆ ระหว่างแม่กลองวัดแก้วราชบุรีอยู่ตลอด แต่บ้านที่อยู่จริงๆ ก็คือที่แม่กลอง เวลาที่เราบอกว่าเสาร์อาทิตย์เราจะกลับบ้านก็คือบ้านที่แม่กลองนี่แหละ