My first teacher
ตอนเด็กๆ เราเริ่มเข้าโรงเรียนที่โรงเรียนอำนวยวิทย์ ครูคนแรกของเราคือ ครูแต๋ว สอนชั้นป.เตรียม ซึ่งก็คือชั้นอนุบาลในสมัยนี้ เราเรียนที่โรงเรียนอำนวยวิทย์จนถึงชั้นป. ๓ แล้วย้ายมาเรียนชั้นป. ๔ ที่โรงเรียนนารีวิทยาที่ราชบุรี

เราจำอะไรเกี่ยวกับสมัยที่เรียนที่อำนวยวิทย์ได้ไม่มาก จำได้ว่านักเรียนชั้นป.เตรียม จะเรียนที่โรงลิเก ซึ่งเป็นโรงลิเกเก่าของวัด พอขึ้นป.๑ ก็จะย้ายมาเรียนที่ตึกข้างศาลา จริงๆ น่าจะเรียกว่าเพิงมากกว่า เพราะไม่ได้เป็นตึก ทำด้วยไม้ยกชั้นขึ้นมา แบ่งเป็นห้องๆ ด้วยกระดานดำกับไม้ตีหยาบๆ จำได้เลาๆ ว่าเด็กเล็ก (ชั้นประถม) จะอยู่ที่นี่ ส่วนเด็กโต (ชั้นมัธยม) จะอยู่ที่ตึกใกล้กุฏิ

แม่เล่าให้เราฟังว่าตอนปีแรกที่เก๋ไปโรงเรียน เราร้องไห้จะตามไปเรียนด้วย แต่ก็ยังไม่ได้ไป เพราะยังเล็กเกิน พอปีถัดมา เราก็ได้ไปโรงเรียนทั้งที่ยังไม่ถึงเกณฑ์ (เราอ่อนกว่าเก๋ ๒ ปี) เพราะความที่งอแงจะตามไปเรียนให้ได้ เราเรียนชั้นป.เตรียม ๒ ปี เพราะแม่บอกครูแต๋วว่าให้เรียนซ้ำอีกปีนึง ทั้งๆ ที่ครูบอกว่า ขึ้นป. ๑ ได้แล้ว แม่ว่าว่าเรา "หัวขี้เลื่อย"

พอเรียนจบชั้นป.เตรียม ก็ขึ้นป. ๑ เรียนกับครูอะไรไม่รู้จำชื่อไม่ได้แล้ว จำได้ว่าแต่ว่าเป็นครูคนใหม่ ผิวขาวๆ ตัวเล็กๆ ผมสั้น เป็นลอนหน่อยๆ

ไม่แน่ใจว่าตอนป.๒ หรือ ป.๓ ที่เราเรียนกับครูแตง ซึ่งเคยแกล้งล้อเราจนร้องไห้ ครูแตงล้อว่าเราไม่ใช่ลูกแม่ แต่เป็นเด็กที่ถูกเก็บขึ้นมาจากแม่น้ำ แม่เห็นเราลอยมากับผักตบ สงสารก็เลยเก็บขึ้นมา แถมพูดต่อว่าเราไม่เห็นเหมือนพี่ๆ พวกเขาเรียนเก่งๆ กันทั้งนั้น แต่เราหัวขี้เลื่อย เราก็พยายามเถียง เถียงเท่าไหร่ก็ไม่ชนะ เลยร้องไห้ซะเลย

ตอนป. ๒ จำได้ว่ามีเด็กนักเรียนมาเข้าใหม่ ชื่อ เชิงชาย ย้ายมาจากภาคใต้ เวลาพูดจะทองแดงหน่อยๆ ตอนเด็กๆ เรายังไม่รู้จักคำว่าทองแดง ก็จะบอกว่าเชิงชายพูดเหน่อ เพราะเชิงชายนี้เอง ทำให้เรารู้ว่าคนใต้เรียกสับปะรดว่า ยานัด ตอนนั้นคนอื่นๆ ล้อว่าเชิงชายกับเราเป็นแฟนกันด้วยหละ (อิอิ)

นอกจากนี้แล้วก็จำอะไรไม่ได้อีก คิดว่ายิ่งนานไปก็คงยิ่งลืมไป ที่มานึกย้อนเกี่ยวกับตอนสมัยที่เรียนอำนวยวิทย์ก็เพราะ เราเพิ่งไปงานศพครูแต๋วมา ครูแต๋วกินยาฆ่าตัวตาย เราไม่อยากจะเชื่อเลยว่าครูแต๋วที่เราจำได้ว่าใจดีมากๆ และมีรอยยิ้มอยู่เสมอจะตัดสินใจทำแบบนั้น

ไม่มีใครรู้ว่าเพราะอะไร บางคนว่าครูกลุ้มใจเรื่องลูกที่ไม่ค่อยเอาไหน (มีข่าวลือว่าติดยา) บางคนว่าครูกลุ้มใจเกี่ยวกับเรื่องงาน แต่ไม่เคยมีใครคิดว่า ครูจะกลุ้มใจถึงขนาดที่จะตัดสินใจแบบนั้น

ตอนนี้เราคิดเสียดายและเสียใจ ว่าเราไม่เคยกลับไปหาครูเลย ไม่เคยได้รู้หรือได้ยินข่าวคราวอะไรเกี่ยวกับครูเลย พอมารู้ตอนนี้ก็สายเสียแล้ว เราก็ได้แต่นึกภาวนาขอให้ครูไปสู่สุคติด้วยเถิด