Nitchawan's Theory of Everything
เมื่อวาน (วันศุกร์) ที่บริษัทมีเลี้ยงเคักวันเกิดประจำเดือนพฤษภาคม (ลงท้ายด้วย "คม" แสดงว่ามี ๓๑ วันนะคะเด็กๆ) มีพี่คนนึงที่เกิดเดือนนี้ แต่ไม่ยอมบอกว่าปีไหน บอกว่า "ปีนี้ผมอายุใกล้ ๓๐" คนที่ได้ยินก็ร้อง "เฮ้ย.. เฮ้ย.. ใกล้ ๓๐ อะไรกันพี่ โกหกกันชัดๆ พี่น่ะ ๓๐ กว่าแล้ว ใกล้ ๔๐ ละไม่ว่า" พี่แกตอบกลับมาว่า "เฮ้ย ผมใกล้ ๓๐ จริงๆ นะ ก้อ..ใกล้ ๓๐ มากกว่า (๔๐) ไง"

อืม... มุขนี้ดี ต้องจำเอาไว้ใช้บ้าง เอ... แต่ไม่รู้ว่าพอตอนที่พี่แกอายุใกล้ ๔๐ แล้วแกจะตอบว่าไง แกอาจจะเปลี่ยนไปตอบว่า "ผมอายุ ๓๐ กว่าๆ (กว่าไปเยอะ..มากก)" มั้ง

เราว่าหลายๆ คนต้องรู้สึกเหมือนเราบ้าง ว่าวันเวลาเดี๋ยวนี้มันผ่านไปอย่างรวดเร็ว แป๊บเดียวก็วันนึง แล้วก็อาทิตย์นึง แล้วก็เดือนนึง รู้สึกว่าเพิ่งจะฉลองปีใหม่ไปแหมบๆ นี่จะครบ ๕ เดือนแล้ว เพิ่งรับเงินเดือนเดือนที่แล้วไปหยกๆ นี่อาทิตย์หน้าเงินเดือนจะออกอีกแล้ว (เร็วแบบนี้เราชอบ แถมได้ข่าวแว่วๆ มาว่า "อาจจะ"มีการจ่ายเงินเดือน เดือนละ ๒ ครั้ง ถ้าเป็นจริงสงสัย รับเงินเดือนกันไม่หวาดไม่ไหว -- ก็แค่ในความรู้สึกเท่านั้นหละ จำนวนเงินก็เท่าเดิมน่ะแหละ... เฮ้อ)

คนชอบพูดว่า เวลาเด็กๆ เราจะรู้สึกว่า เวลาผ่านไปช้า เพราะเราอยากโตไวๆ เพราะคิดว่าพอโตแล้ว จะได้ทำอะไรๆ ตามใจตัวเอง ไม่ต้องมีผู้ใหญ่มาคอยบังคับ แต่พอเราโตแล้ว เราจะรู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็ว เพราะเราไม่อยากโตแล้ว เพราะนั่นหมายถึงความแก่ชรา ใกล้ไตวาย เอ้ย.. ตายไว เข้าไปทุกขณะ แถมเรามีอะไรที่ต้องทำเยอะแยะมากมาย ที่ดูเหมือนว่า เรามีเวลาน้อยลงๆ และไม่เคยพอ ทั้งที่มันก็วันละ ๒๔ ชม. เท่าเดิม

อันนี้อาจใช้หลักพระพุทธศาสนามาอธิบายได้ว่า มนุษย์เรามักไม่พอใจในสภาพ และสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ ช้าไปก็ไม่พอใจ เร็วไปก็บ่น จริงๆ แล้วทุกอย่างก็เหมือนเดิม แต่ต่างกันที่ความรู้สึก "ใดๆ ในโลกนี้ล้วน relative" (อันนี้แหกคอกศาสนา ขอแทนที่คำว่า อนิจจัง ด้วย relative -- เป็นศาสนา ฉบับ บัวใต้คอนกรีต อย่างเรา) เพราะทุกคนเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง และตัดสินโลกจากจุดยืนของตัวเอง

อืม... ชักไปไกลกว่าที่ตั้งใจจะพูดถึงซะแล้ว ต้องกลับมาเข้าเรื่อง เวลา ก่อนดีกว่า เราไม่อยากจะเชื่อว่า ไอ้คำพูดที่ว่า เวลาน่ะมันก็มีเท่าเดิม มันเป็นจริงอย่างนั้น เป็นไปได้หรือไม่ว่า "เวลาสมัยนี้ผ่านไปเร็วกว่าสมัยก่อน" จริงๆ เป็นไปได้หรือไม่ว่า "เราไม่ได้มีเวลา ๒๔ ชม. เท่าเดิม" เป็นไปได้หรือไม่ว่า "โลกสมัยนี้หมุนเร็วขึ้น" ทุกคนน่าจะเคยได้ยินว่า เราต้องหมุนตามโลกให้ทัน แสดงว่าต้องมีคนคิดว่าโลกหมุนเร็วขึ้น เพียงแต่ยังไม่มีใครพิสูจน์มันได้

สมัยก่อนโลกหมุนช้า คนสมัยก่อนก็เลยมีเวลาทำอะไรที่ศรีวิไลรื่นรมย์ แล้วดูสมัยนี้สิ อะไรๆ ก็เร่งรัดไปหมด กินด่วน เรียนหลักสูตรเร่งรัด (แถมพวกดาราบางคนยังมีการให้กำเนิดบุตรแบบเร่งรัด อีกด้วย สมัยก่อนท้อง ๙ เดือน ยุคที่โลกหมุนเร็วจี๋แบบนี้ ท้องแค่ ๖-๗ เดือนก็พอแล้ว อืม... อันนี้ออกจะนอกประเด็นไปอีกแล้ว ขออภัย)

เราอยากจะเชื่อว่า "โลกสมัยนี้หมุนเร็วขึ้นกว่าเมื่อก่อน" "เวลาที่เรามี ๒๔ ชม. ใน ๑ วัน มันไม่ได้เท่าเดิม แต่ว่าน้อยลง" และ "เด็กๆ สมัยนี้ก็คิดว่าเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วเหมือนกัน" (ว้า... ๔ ทุ่มแล้ว ยังอยากเล่นเกม Tarzan อีกซัก ๒-๓ รอบ -- หรือ ว้า.. พรุ่งนี้ก็วันจันทร์แล้ว ต้องไปโรงเรียน ฮือๆ)

เคยมีใครลองพยายามพิสูจน์ดูบ้างไหม ว่า สิ่งที่เราคิด อาจจะเป็นไปได้ มันเหมือนกับว่า ใช่ เรายังมี ๒๔ ชม. ใน ๑ วันเหมือนเดิม ความยาวของชม. มันลดลงโดยเราไม่รู้ตัว ทำไมล่ะ ก็ในเมื่อโลกยังร้อนขึ้นทุกวันได้ ทำไมมันจะหมุนเร็วขึ้นและทำให้วันนึงๆ สั้นลงไม่ได้ (พูดถึงโลกร้อน มันอาจจะเป็นผลมาจาก ทฤษฎีของเราก็ได้ พอโลกหมุนเร็วขึ้น เกิดพลังงานมากขึ้น ต้องปลดปล่อย ออกมาในรูปของความร้อน บราโว... ทำไมมันสมเหตุสมผลแบบนี้)

แต่จะว่าไปแล้ว เราว่า เรื่องที่เราคิด ก็อาจจะไม่สามารถพิสูจน์ได้ เพราะ...ไอน์สไตน์ เพราะทฤษฎีสัมพันธ์ภาพ (ซึ่งเป็นทฤษฎีในดวงใจที่เอาไว้จะต้องหาโอกาสเขียนถึงอีกให้ได้) คือ การที่เราจะวัดให้ได้ว่า เวลา มันสั้นลงจริง เราจะต้องมีเครื่องมือวัด ที่เป็น absolute ไม่ใช่ relative

ลองนึกภาพว่า ถ้าเราต้องการจะวัดความยาวของ เชือก ด้วย ไม้บรรทัด สมมติว่า เชือกยาว ๑ ไม้บรรทัด ซึ่งเราตกลงกันว่า มีความยาว ๓๐ ซม. เชือกของเราก็จะยาว ๓๐ ซม. ต่อมาเราเชื่อว่าเชือกของเราสั้นลง ความคาดหวังของเราก็คือ ถ้าเราเอาไม้บรรทัดอันเดิมมาวัด ไม้บรรทัดต้องยาวกว่าเชือก นั่นคือเชือกยาวไม่ถึง ๓๐ ซม.ซะ แล้ว (are you still with me?)

แต่เนื่องจากไอน์สไตน์ได้ประกาศความมีอยู่จริงของทฤษฎีสัมพันธ์ภาพไปแล้ว และทุกคนก็ยอมรับอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง มันก็เป็นไปได้ (และอาจะเป็นไปแล้ว) ว่าในขณะที่เชือกของเราสั้นลง ไม้บรรทัดของเราก็สั้นลงด้วย เพราะทั้งเชือก และไม้บรรทัดอยู่ภายใต้กรอบอันเดียวกัน ทีนี้จะเกิดอะไรขึ้นล่ะ พอเราเอาไม้บรรทัดไปวัดเชือก เราก็จะพบว่า เชือกกับไม้บรรทัด "ยาวเท่ากัน" แต่ไม่ได้หมายความว่า ทั้งเชือก และ ไม้บรรทัด "ยาวเท่าเดิม" เราก็เลยหลงคิดว่า เรายังมีเชือกยาว ๓๐ ซม. อยู่ เหมือนกับที่เราหลงคิดว่า วันนึงมี ๒๔ ชม. เท่าเดิมอยู่

จากอุปมาอุปมัยที่เขียนมาซะยาวยืด คงทำให้คนที่มีสติปัญญาปานกลางพอจะมองเห็นความเป็นไปได้ในความเชื่อของเรา (ส่วนคนที่มีสติปัญญาดี ถึง ดีมากๆ ก็จะเชื่ออย่างไม่มีเงื่อนไข) และจนกว่าจะมีใครสามารถอธิบายพร้อมแสดงหลักฐาน ที่ทำให้เราเชื่อได้ว่าที่เราเขียนมาทั้งหมดนี้มันไร้สาระ ไม่มีมูล เป็นไปไม่ได้ในทางวิทยาศาสตร์ เราจะขอประกาศว่า

"โลกสมัยนี้หมุนเร็วขึ้นกว่าเมื่อก่อน"

"เวลาที่เรามี ๒๔ ชม. มันไม่ได้เท่าเดิม แต่ว่าน้อยลง"

เป็นส่วนหนึ่งของ Nitchawan's Theory of Everything. (Applause!!!)

Thank you.. Thank you .. Thank you : )