Lone Ranger
เมื่อวานโดดงานไป ๑ วัน เพราะรู้สึกว่า ไม่อยากต้องมานั่งตากแอร์ทั้งที่เป็นหวัด บวกกับความขี้เกียจที่ต้องทำงานน่าเบื่อ งานช่วงนี้เริ่มช้าลง มีงานเช็ค Calculation ของ Project ที่อเมริกา กับงานเช็ค Drawing ของ Project ที่อินโดนีเซีย น่าเบื่อพอๆ กัน

มาทำงานวันนี้ปรากฏว่า มีงานใหม่เข้ามาตรึม มองในแง่ดีก็ OK นะ ทำให้ไม่ต้องนั่งเซ็ง การมีงานทำเยอะๆ ก็จะทำให้กระตือรือร้น มองในแง่ไม่ดีก็คือ เราต้องทำงานหนักขึ้น มีเวลาไปดูหนังน้อยลง แถมอีกอาทิตย์นึงก็จะเปิดเทอมแล้ว ต้องไปเรียนตอนเย็น ทำให้เวลาน้อยลงไปอีก

หลังจากเราเริ่มเขียนไดอะรี่บนเว็บก็ก่อให้เกิดอาการคันไม้คันมือในหมู่อดีตสมาชิก Ice Dream ตอนนี้มีคนมาร่วมแจม การเขียนไดอะรี่อีกคนนึ่งแล้ว เมื่อวานแนะนำ ไดอะรี่ของปิฯไปแล้ว วันนี้เราภูมิใจเสนอ... ไดอะรี่ของแตงโม หวังว่าจะมีคนอื่นๆ มาร่วมแจม ทั้งอ่านและเขียนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

พูดถึง Ice Dream คงเป็นอีกหัวข้อหนึ่งที่จะต้องเขียนถึงเมื่อมีโอกาส แต่บางทีเราอาจจะรอให้ปิฯ กับแตงโมเขียนถึงก่อนดีกว่า ท่าทาง ๒ คนนั้นจะจำอะไรๆ ได้เยอะกว่ายัยแก่ขี้ลืมอย่างเรา

ช่วงนี้พยายามนัดเจอเพื่อนๆ ไม่ว่าจะเป็นการนัดกันตอนเย็นกินข้าวกัน หรือนัดไปต่างจังหวัด แต่ก็ดูเหมือนว่าจะนัดกันยากเย็นเหลือเกิน ยิ่งมีจำนวนคนมากเท่าไหร่ โอกาสประสบความสำเร็จก็ยิ่งน้อยลง ไม่อยากจะพูดว่า นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้เราชอบที่จะทำอะไรๆ คนเดียว ไปกินข้าวคนเดียว ดูหนังคนเดียว สะดวกสบายกว่ากันเยอะ

::ข้อดีของการไม่ต้องนัดเพื่อนมากินข้าวหรือดูหนังด้วยกัน::

๑. ไม่ต้องคอยโทร./ส่งอีเมล์/ส่ง message ไปหาคนโน้นคนนี้ ว่าจะนัดกันที่ไหน เมื่อไหร่ ซึ่งกว่าจะตกลงกันได้ก็ต่อเมื่อวันรุ่งขึ้นจะเป็นวันที่นัดกันแล้ว ฉุกละหุกปานนั้น

๒. ไม่ต้องหงุดหงิด หรือเสียใจ เวลาที่มีคนเปลี่ยนใจ ไม่มาตามนัดในนาทีสุดท้าย

๓. ไม่ต้องเป็นห่วงความรู้สึกคนอื่นเวลาที่เราอยากเปลี่ยนใจไม่ไปตามนัด ถ้าไม่อยากไปก็ไม่ต้องไป แล้วก็ไม่ต้องพยายามหาเหตุผลหรือข้อแก้ตัวว่าทำไมเราถึงไปตามนัดไม่ได้ เพราะบ่อยครั้งเหตุผล คือ ขี้เกียจ หรือ ไม่อยากไป

๔. ไม่ต้องฟังเหตุผลปลอมๆ ที่คนอื่นคิดขึ้นมา เพราะบ่อยครั้งเราก็รู้ว่ามันเป็นข้อแก้ตัวมากกว่าเหตุสุดวิสัย

๕. ไม่ต้องเป็นกังวลว่าเวลาที่นัดกันแล้วคนอื่นๆ จะรู้สึกอย่างไร ชอบใจหรือไม่ชอบใจ อึดอัดไม่พอใจหรือเปล่า อาหารไม่อร่อย ราคาแพงเกินไปหรือเปล่า หนังไม่สนุก พระเอกไม่หล่อ นางเอกไม่สวย ไม่ต้องกังวลว่า จะมีคนว่าเรารสนิยมไม่ดีพอ

๖. ลดความเสี่ยงในการตกอยู่ในสภาพที่ต้องเผชิญหน้ากับคนที่เราไม่สบายใจที่จะต้องกินข้าวหรือดูหนังด้วยถ้าไม่มีคนอื่นๆ อยู่ด้วย ลองนึกถึงเวลาที่นัดกันหลายๆ คน แล้วมีคนหนึ่งในนั้นที่เราไม่ค่อยสนิทอยู่ด้วย แล้วเกิดทุกๆ คนเปลี่ยนใจไม่มากันหมด เหลือเรา ๒ คน โอ้โห อึดอัดตายเลย

๗. การไปไหนคนเดียวเป็นการเปิดโอกาสที่จะได้พบคนใหม่ๆ ที่เราอาจจะไม่ได้พบถ้าเราไปกับเพื่อน โดยเฉพาะอาจเป็นหนุ่มหล่อ นิสัยดี รักสันโดษ อิอิ (wishful thinking นะข้อเนี้ย)

หลังจากอ่านทวนทั้ง ๗ ข้อ ที่เขียนมาแล้วก็ต้องยอมรับว่า เป็นการหาเหตุผล แบบมะนาวหวาน คือ หาข้อดี--ที่ค่อนข้างจะเชื่อได้ยาก--จากเหตุการณ์ที่ไม่พึงปรารถนา ก็ในเมื่อเหตุการณ์มันบังคับ เพราะไม่มีใครจะมาสนใจไปดูหนังกินข้าวกับเรา ก็ต้องพยายามมองวิกฤตให้เป็นโอกาส ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ เพื่อให้อยู่ได้อย่างมีสุขภาพจิตดี เฮ้อ...