Accident
เมื่อวานออกจากที่ทำงานก็เกือบ ๒ ทุ่มแล้ว ฝนตกมาได้พักใหญ่แล้ว ตอนที่เราขับรถกลับบ้านก็ยังไม่หยุด ตอนขึ้นทางด่วนก็คิดเรื่องโน้นเรื่องนี้ คิดว่า เดี๋ยวกลับไปถึงบ้านจะไปทำงานต่อ เพราะช่วงนี้เราแย่มาก ทำงานไม่ได้ถึงไหน เพราะคุยกับเพื่อนๆ ซะเยอะ คิดว่า ต้องอ่านหนังสืออะไร ต้องเขียนไดอะรี่ไม่งั้นเดี๋ยวปิบ่น ฯลฯ แล้วก็ดูถนนแล้วก็นึกว่า เฮ้ย...เราต้องขับรถระวังๆ หน่อยแล้ว ฝนตกๆ แบบนี้ เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย

พอขับมาถึงตรงราบบ่อนไก่เท่านั้นหละ เรามองเห็นรถตู้คันหน้าโน้นเสียหลัก รถเป๋จากเลนกลางพุ่งมาทางขวา มาตัดหน้ารถคันข้างหน้ารถเรา (เราวิ่งอยู่เลนขวา) แล้วก็พุ่งชนขอบถนนทางด้านขวา ขวางลำรถเก๋งคันขับที่อยู่หน้าเรา เขาก็ชนโครมเข้าไปเต็มๆ เราก็เบรคเต็มที่ แต่ไม่ทันชนท้ายเขาซ้ำไปอีก ทั้งหมดที่เกิดขึ้นตั้งแต่ที่เราเห็นรถตู้เป๋ออกมาจนรถเราหยุดนิ่งติดอยู่ที่ท้ายรถเก๋งคันหน้านี่แป๊บเดียวเองนะ ประมาณไม่กี่วินาที นึกถึงที่เตี่ยเคยว่า อุบัติเหตุเกิดขึ้นในช่วงเวลาเสี้ยววินาที ถ้าเร็วกว่านั้นนิดเดียวก็ไม่เกิด ช้ากว่านั้นนิดเดียวก็ไม่เกิด ต้องวินาทีนั้นจริงๆ แล้วมันก็เร็วมากๆ

เราลงมาดูรถเรา ปรากฏว่าไฟเลี้ยวกับไฟหน้าด้านขวาแตก ฝากระโปรงเยินขึ้นมาเล็กน้อย แผ่นเหล็กชิ้นข้างที่ต่อกับฝากระโปรงก็เยิน กันชนก็ฉีกเล็กน้อย เราคิดว่าถ้าเราหักหลบมาทางซ้ายนิดนึงก็อาจจะพ้น แต่ความที่ถนนมันลื่นขนาดนั้น เราก็ไม่แน่ใจว่าหักหลบแล้วอาจเสียหลักไปอีกเลนนึงก็อาจไปชนกับคนอื่นอีก แต่ก็ไม่เชิงจะคิดละเอียดขนาดนั้นหรอกนะ ก็อย่างที่บอก มันเกิดเร็วมาก

จากรถเรา ก็ไปดูรถเก๋งคันหน้า สภาพย่ำแย่ที่เดียว ข้างหน้าผ่ากระโปรงย่นเข้ามาเยอะ (จนพี่ที่เป็นคนขับบอกว่า เดี๋ยวต้องไปทุบมันลงเพราะมองทางไม่ค่อยเห็น) ด้านท้ายตรงที่เราชนก็ไฟแตก กับตรงใกล้ๆ ถังน้ำมันยุบ มีกลิ่นน้ำมันคลุ้ง ตอนแรกเรานึกว่าเราชนถังน้ำมันเขาแตก แต่ตอนหลังมาคุยกับคนขับรถเก๋ง เขาบอกว่าเป็นน้ำมันของรถตู้ น้ำมันไหลออกมาจากรถเขา เขาก็เลยลื่นเสียหลักมา ส่วนรถตู้คันต้นเหตุ ด้านข้างที่โดนชนบุบ ด้านหน้าที่ไปชนกับขอบถนนเกยขึ้นไป ตอนหลังต้องเอารถมาลากถึงจะออกจากขอบทางได้

นอกจากความเสียหายที่รถแล้วไม่ใครเป็นอะไร รถเรามีประกันชั้น ๓ รถเก๋งมีประกันชั้น ๑ ส่วนรถตู้ไม่รู้เพราะเป็นคนขับรถรับจ้าง มีเจ้าหน้าที่ทางด่วนมาวาดรูปช่วยประสานงานกันรถให้ ทำเอารถบนทางด่วนต้องหยุดเป็นพักๆ มีอยู่แป๊บนึงที่ต้องหยุดหมดทั้ง ๓ เลน คนที่ผ่านไปแถวนั้น หรือฟังข่าวจราจรเมื่อคืน น่าจะได้ยิน นั่นหละเราอยู่ตรงนั้นด้วยเลย (เฮ้อ) เจ้าหน้าที่เขาบอกให้เราไปที่สถานีตำรวจทางด่วน ๑ ตรงท่าเรือ แต่กว่าจะได้ความแบบนี้ทุกคนก็เปียกโชกไปตามๆ กันเพราะฝนยังไม่หยุด

รถเก๋งคันหน้าเขามากัน ๓ คน เขาโทรเรียกประกันตั้งแต่ตอนที่เพิ่งชน ส่วนเรามัวแต่งงๆ โทรไปเล่าให้เก๋ฟัง แต่ไม่ได้โทรเรียกประกัน (เพราะความที่เราขับรถไม่มีประกันอยู่หลายปี มีแต่พรบ.บุคคลที่ ๓ เพิ่งมาปีนี้เอง ที่ยุพินถามว่าจะทำประกันไหม เพราะรถเตี่ยก็ทำ เราก็เลยตามใจเขา ทำก็ทำเราไม่ต้องออกเงินอยู่แล้ว) จนมาถึงสถานีตำรวจแล้วถึงได้สติ ก็เลยโทรเรียกประกันของเรามามั่ง ส่วนคนขับรถตู้มาคนเดียว เขาบอกว่าต้องติดต่อเจ้าของ

ตอนที่พวกเรามาถึงสถานีตำรวจ รถตู้ยังไม่มาเพราะต้องลากมา เราก็ไม่นึกว่ารถเขาจะเป็นอะไรเยอะ พอคนขับรถตู้มา เขาท่าทางงงวยยิ่งกว่าเราอีก ตำรวจถามว่ารถตู้มีประกันหรือเปล่า เขาบอกว่าไม่รู้ น่าจะมี แต่ต้องถามเจ้าของ ตำรวจก็บอกให้ติดต่อเจ้าของมาสิ เขาก็ยังงงๆ อยู่ ตำรวจน่ะเขาตัดสินใจไปแล้วหละ ว่าให้รถตู้คันหน้ารับผิดชอบความเสียหายด้านหน้า ส่วนรถเราต้องรับผิดชอบความเสียหายด้านหลังที่ไปชนเขา เขาก็แค่ถามว่าตกลงไหม เราก็กับคนขับรถตู้จะไปเถียงอะไรได้ ก็ตกลงน่ะซี ก็เลยโดนปรับคนละ ๔๐๐ บาท อีกต่างหากจากที่ต้องชดใช้ค่าเสียหาย ฐานขับรถโดยประมาท

เราต้องจ่ายเงิน และเซ็นชื่อรับเป็น "ผู้ต้องหา" ฐานขับรถโดยประมาท (เป็นคดีที่ ๒ ที่เราเป็นผู้ต้องหา คดีแรกคือตอนกลับมาจากอเมริกาใหม่ๆ ต้องไปต่อใบกว. ซึ่งหมดอายุไปประมาณ ๗ เดือน เราต้องไปสารภาพเป็น ผู้ต้องหา ฐานประชอบอาชีพวิศวกรรมโดยไม่มีใบอนุญาต) หลังจากที่ตำรวจตัดสินไปแล้วเราก็ต้องรอประกันของเรา พอประกันเรามาเขาก็ถามเรื่องราว ถ่ายรูป เขาพูดทำนองว่าเราไม่น่าจะยอมรับว่าเราผิดที่ชนท้าย น่าจะต่อรองให้รถตู้เป็นคนผิด เพราะเขาข้ามเลนมากระทันหัน แต่เราก็ไม่ได้คิดอะไรมาก บอกว่าตำรวจว่าไงก็ว่างั้น แล้วเราเซ็นเอกสารให้เขา แล้วก็ให้เขาไปเคลียร์กับประกันของรถเก๋ง ฯลฯ เอง เพราะเราอยากกลับบ้านเต็มทนแล้ว เราก็กลับมาถึงบ้านตอน ๔ ทุ่มครึ่ง

บทเรียนจากเหตุการณ์ :: ฝนตกถนนลื่นขับรถด้วยความระมัดระวัง ฝนไม่ตกถนนไม่ลื่นก็ต้องขับรถด้วยความระมัดระวังเหมือนกัน::
เรามานึกดู เท่าที่ผ่านมา เรามีอุบัติเหตุตอนฝนตกๆ อย่างนี้เป็นครั้งที่ ๓ แล้ว ครั้งแรกบนถนนพระราม ๒ หลายปีมาแล้ว ตั้งแต่ตอนซื้อรถใหม่ๆ (เพิ่งซื้อได้ ๖-๗ เดือน) ตอนนนั้นพระราม ๒ ยังทำถนนอยู่ คนข้างหลังเขาเบรคไม่ทัน ชนท้ายเรายุบไปเลย เข้าอู่อยู่ ๒-๓ อาทิตย์ได้

อีกครั้งนึงเมื่อปีที่แล้ว บนทางด่วนนี่หละ เลยจากจุดที่เกิดเหตุคราวนี้ไปซัก ๕๐๐ เมตรได้ คราวนั้นเรายืมรถที่บ้านมาใช้เพราะรถเราเข้าอู่ซ่อมสี ฝนตกๆ แบบนี้เลย แล้วก็เวลาประมาณเดียวกันเลย เรากำลังจะเลี้ยวโค้งเข้ามาทางดาวคะนอง (อีกนิดเดียวก็จะถึงทางลงของเราแล้ว) รถคันข้างหน้าเบรค เราก็เบรค เท่านั้นแหละ รถปัดวืบ เสียหลักพุ่งเข้าไปชนกำแพงด้านขวา (อีกแล้ว) ขวางลำเต็มช่องทาเลย รถที่ตามมาข้างหลังเสยตูมเข้ามากลางคัน รถเราเปิดประตูไม่ได้เลย แต่ก็ยังดีที่เราไม่เป็นอะไร ก็ไปจบที่สน.ตรงท่าเรือนี่แหละ (ตอนที่เราโทรไปบอกเก๋ เก๋พูดเหมือนกับตอนที่เราคิดหลังจากรถหยุดนิ่งเลย "อีกแล้วเหรอเนี่ย?!?" เรามานึกๆ ดูว่า ต่อไปถ้าฝนตกเราควรไปขึ้นทางด่วนขั้นที่ ๒ เพราะทางนั้นรู้สึกว่ารถจะน้อยกว่า และถนนไม่ค่อยลื่น)

หลังจากนั้นเราสังเกตว่าทางด่วนเขาเอาแผ่นที่ติดบนถนนให้ชลอความเร็วมาติด (แบบที่วิ่งผ่านแล้วมันจะขรุขระๆ แล้วก็มีเสียงดังๆ น่ะ) แสดงว่าคงมีอุบัติเหตุบ่อยมากๆ จนเขาต้องแก้ไข แต่เผอิญเขาแก้ไขช้าไปหน่อย เราเลยเกิดอุบัติเหตุไปซะก่อน ช่วงแรกๆ ที่เพิ่งเกิดอุบัติเหตุเราขับผ่านตรงโค้งที่ว่านี่จะใจสั่นๆ ยังไงไม่รู้ เดี๋ยวนี้ไม่สั่นแล้ว แต่พอผ่านก็จะนึกถึงตลอด เฮ้อ... เตือนใจกันอีกที :: ฝนตกถนนลื่นขับรถด้วยความระมัดระวัง ฝนไม่ตกถนนไม่ลื่นก็ต้องขับรถด้วยความระมัดระวังเหมือนกัน ::