Class at Ladkrabang
เทอมนี้เรามีเรียน ๓ วิชา ในขณะที่คนอื่นๆ จะมี ๔ วิชา เราตัดสินใจแล้วว่าจะเรียนจนจบเทอม ๔ แล้วก็จะเลิก ไม่ได้ปริญญา แต่ไม่เป็นไร เพราะถึงได้ปริญญามาเราก็ไม่มีความรู้จะไปทำงานอะไรตามวุฒิที่ได้อยู่ดี เรียนแค่พอมีความรู้งูๆ ปลาๆ ก็พอ วันก่อนมีคนพูดว่าเป็น “เหมือนเป็ด” เลย คือรู้อะไรหลายๆ อย่าง แต่ทำได้ไม่ดีสักอย่าง (ก็เป็ดเนี่ย ว่ายน้ำก็ได้ บินก็ได้ แต่ว่ายไม่เก่ง บินไม่ไกล) เรานี่แหละ เป็ด สุดๆ แต่ทำไงได้ เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เกิด สนใจอะไรๆ ก็ได้แค่พักเดียว แล้วก็เบื่อหรือขี้เกียจ จะให้เชี่ยวชาญอะไรได้ไงกัน

เราเรียน วันจันทร์ กับอังคารที่ตึกชินวัตร ๓ เทอมนี้เป็นเทอมแรกที่ย้ายมาจาก SCB Park Plaza สถานที่เรียนดีขึ้น เพราะมีห้องเรียนเพิ่มขึ้น แต่ facility ในตึกไม่ดีเท่าที่ SCB มีร้านอาหารแค่ ๒ ร้าน กับมินิมาร์ทร้านนึ่ง ทุกย่างปิดตอน ๒ ทุ่ม (ที่ SCB ปิดประมาณ ๔ ทุ่ม) ตัวตึกก็มีระบบความปลอดภัยเข้มข้น เพราะเป็นตึกสำนักงานของพรรคไทยรักไทย มีคนพูดว่า จะด่าอะไรรัฐบาล หรือนายกฯ ก็ระวังๆ หน่อย เพราะเขาอยู่ข้างใต้เราไปชั้นเดียวเอง ไทยรักไทยอยู่ชั้น ๙ ลาดกระบังอยู่ ชั้น ๑๐

เราไม่ชอบเลยที่ต้องไปเรียนที่ลาดกระบัง เพราะขับรถไกลเหลือเกิน ไปกลับ ๖๐ กม. ได้ แถมตอนนี้มีทำถนนช่วงหน้าสถาบันอีก ที่จริงคือตั้งแต่ที่แยกมาจากถนนอ่อนนุชเลยหละ เวลาขับแล้วสงสารรถมาก เพราะถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ สะเทือนมากๆ คนนั่งก็หัวสั่นหัวคลอน เสาร์ที่แล้าเราก็เลยขับอ้อม จากแยกร่มเกล้าไปทางมีนบุรี แล้วเลี้ยวขวา เหมือนจะไปทางนิคมฯ น่ะ ขับไปก็ลุ้นระทึกไป เพราะกลัวหลง ความจริงก็ไม่น่ากลัวเท่าไหร่ เพราะมันแค่ ๒ เลี้ยวเอง แต่ความที่มันมีถนนตัดใหม่ (มอเตอร์เวย์) ก็เลยทำให้เรากังวล ปรากฏว่า ต้องขับรถเพิ่มขึ้นอีกประมาณ ๘ กม. จากทางธรรมดา (ไม่งั้นจะเรียกว่า ขับอ้อมเหรอ) ไม่รู้เหมือนกันว่าคุ้มหรือเปล่า ระหว่างกม. ที่เพิ่มขึ้น กับการไม่ต้องทนความสั่นสะเทือน

ตอนเรียนเสร็จเราตั้งใจว่าจะไปหาบทความที่ห้องสมุด แต่มีคนบอกว่า ถ้าไม่ใส่รองเท้าหุ้มส้น จะเข้าไม่ได้ เราใส่รองเท้าที่ไม่ได้หุ้มส้น แต่เราก็ไม่รู้สึกว่าไม่สุภาพนะ แต่เขาก็บอกว่าไม่ได้ อย่างน้อยก็ต้องมีสายรัด เราลืมไปเลยว่า มหาลัยเมืองไทย (เอ.. หรือว่าเป็นเฉพาะลาดกระบัง เคยเรียนแต่ที่นี่มาตลอด ที่อื่นเป็นไงไม่รู้) ยังมีกฏแบบนี้อยู่ ความจริงเขาน่าจะส่งเสริมให้เด็กเข้าไปค้นหาความรู้ในห้องสมุด แต่ทำอย่างนี้มันกีดกันกันชัดๆ ถึงว่าสิ เด็กๆ ก็เลยไปดูหนังหรือเดินเล่นตามศูนย์การค้า มากกว่าไปห้องสมุด ก็ที่นั่นเขาไม่ห้ามนี่นา จะใส่รองเท้าอะไร แต่งตัวยังไงก็ได้ เอ… พาลหาเรื่องไปหน่อยหรือเปล่า

::Thought of the day::
อ่านคอลัมน์อาหารสมองในมติชนเขาเขียนว่า ในการลงทุน ให้เลือกผลตอบแทนให้เหมาะสมกับความต้องการของตัวเอง ว่า อยากจะกินดี หรือ นอนหลับสบาย – หมายถึงว่า ถ้าอยากจะกินดีๆ ก็ให้เลือกลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงๆ แต่ถ้าอยากจะนอนหลับสบายก็ให้เลือกลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำๆ เพราะปกติผลตอบแทนในการลงทุนกับความเสี่ยงในการลงทุนจะไปด้วยกันอยู่แล้ว ถ้าความเสี่ยงสูงผลตอบแทนก็จะสูงไปด้วย – อืม… เข้าใจคิดเนาะ