ChicFlick.com
เมื่อวันก่อนไปดู Princess Diaries มา เราชอบนะ แต่ไม่รู้เป็นเพราะ เราถูกกับสไตล์ Gary Marshall ผู้กำกับหรือเปล่า เขาเป็นคนที่ทำ Pretty Woman เมื่อหลายปี (สิบกว่าปี?) ก่อน ซึ่งคนอื่นๆ อาจจะว่ามันเป็น Chic Flick เป็นหนังน้ำเน่า ตลาด งี่เง่าหรืออะไรก็ตาม แต่เป็นหนังที่เราชอบมากเรื่องหนึ่ง เจอทีไรก็อดดูไม่ได้ ดูซ้ำกี่ครั้งก็ยังรู้สึก Moved ไปกับเรื่องราวทุกครั้งไป มีอยู่ครั้งหนึ่งเราเปิดมาเจอ Pretty Woman ฉายทางเคเบิลตอนเที่ยงคืนกว่าๆ ก็อดไม่ได้นั่งดูจนจบ กว่าจะเข้านอนตีสองกว่าๆ วันรุ่งขึ้นไปทำงานก็นั่งง่วงแถมตาบวม แต่มันห้ามใจไม่ได้จริงๆ (แหะๆ)

Princess Diaries เนี่ยไม่รู้ว่าตั้งชื่อออกมาตัดกระแส (หรืออาศัย?) ความแรงของ Bridget Jones’s Diary หรือเปล่า เพราะจะว่าไปแล้วมีเนื้อหาที่เกี่ยวกับไดอะรี่น้อยมาก แต่ยังไงก็เป็นหนังที่ดีกว่าที่เราคาดไว้ คาดว่ามันจะเป็นหนังวัยรุ่นฮาๆ มากกว่านี้ (ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นจริงเราก็คงชอบมันน้อยกว่านี้) ชักเริ่มสงสัยว่าอีตาแกรี่ มาร์แชล ผู้กำกับ แกต้องมีความหลังฝังใจอะไรกับเรื่องประมาณ Cinderella หรือ My Fair Lady แน่ๆ เลย ถึงทำหนังทำนองนี้ออกมาอยู่เรื่อย ประมาณว่า ผู้หญิงที่เป็นคนธรรมดา ดาดๆ (หรือที่จริงออกจะแย่กว่าธรรมดาด้วยซ้ำ Julia Roberts ใน Pretty Woman เป็นโสเภณี Anne Hathaway ใน Princess Diaries เป็นเด็กที่ไม่มีใครมองเห็นความสำคัญ และมีปัญหาในการเข้ากับสังคมรอบข้าง) แต่ได้กลายมาเป็นนางเอก เป็นเจ้าหญิง โดยจะต้องมีการเรียนรู้ที่จะพัฒนาศักยภาพที่มีอยู่ในตัวเอง แต่เจ้าตัวไม่เคยได้นึกถึงหรือรู้ว่ามันมีมาก่อน ทำเอาเราหลงคิดไปว่าคนเห่ยๆ อย่างเราก็อาจจะมีศักยภาพที่ซ่อนเร้นและรอการพัฒนาซ่อนอยู่ หรือว่าที่จริงเราก็มีคุณค่ามากพอๆ กับคนอื่นๆ เพียงแต่คนมองข้ามมันไป แต่ซักวันหนึ่งจะมีคนที่ตาถึงมามองเห็นมัน เป็นการช่วยในเรื่องความรู้สึกไม่ให้หมดหวังจนเกินไปไง

หนังเรื่องนี้เอาดาราเก่าจาก Pretty Woman มาเล่นด้วย คือคนที่เคยเล่นเป็นผู้จัดการโรงแรมที่ริชาร์ด เกียร์ไปพัก ที่เป็นคนช่วยนางเอกหาร้านที่ยอมขายเสื้อผ้าให้ Julia ไง มาเรื่องนี้ เล่นเป็นคนขับรถ (แต่ก็กิตติมศักดิ์นะ เพราะแกทำหน้าที่รักษาความปลอดภัย ครูสอนเต้นรำ และผู้ช่วยนางเอก ฯลฯ ด้วย) ที่น่ารักมาก ไม่รู้เป็นเพราะแกเล่นเก่งหรือเป็นเพราะบทเขียนมาให้แกเล่นไม่รู้ แสดงได้เนียนมาก ตัวละครอื่นๆ ก็เหมาะสมดี จะมีก็แต่ตัวนางเอกนี่หละ ที่เราว่าดูแปลกๆ หน่อยๆ คือบางทีแกดูหน้าแก่ๆ กว่าความเป็นจริง โดยเฉพาะ ตอนที่ถูกแปลงโฉมให้ดูดีขึ้นเป็นครั้งแรก ดูแล้วเหมือนพวกนางงามที่มาประกวดนางสาวไทยยังไงยังงั้น ทรงผมแปลกๆ แต่งหน้าเวอร์ๆ เรานึกไม่ออกว่าเคยดู Anne Hathaway เล่นหนังเรื่องอื่นมาก่อนหรือเปล่า แต่ในบางมุมเขาดูคล้ายๆ กับ Natalie Portman เลย แต่บางมุมก็ไปคล้ายกับดาราไทย วิชชุดา พินดัม อืมม์.. เราอาจจะคิดไปเอง

ในหนังมีฉากหลายๆ ฉากที่ทำเอาเราน้ำตาซึม แต่ไม่พูดถึงดีกว่ามันไม่ค่อยเข้ากับมาดของเราเท่าไหร่ (เขิน…อ่ะ) เรามักจะประทับใจในเรื่องที่เป็นความสัมพันธ์ของคนทั่วๆ ไป (เพื่อนกับเพื่อน แม่ลูก คนในครอบครัว ฯลฯ) ความงดงามในน้ำใจของมนุษย์ มากกว่าเรื่องรักโรแมนติค (คงเป็นเพราะ นึกไม่ออกว่าคนเราจะรักกันปานจะกลืนแบบในหนังได้ยังไง อย่างที่ผ่านมาแหม็บๆ ก็ Moulin Rouge น่ะดูสนุก แต่ไม่ Moved ไปกับอารมณ์โรแมนติคเลย) ชอบตอนที่ท้ายที่นางเอกพูดว่า เธอมักจะคิดถึงแต่ตัวเอง คิดว่าวันนี้จะตัวเองจะเป็นอย่างไร ตัวเองจะรู้สึกดีหรือแย่เพียงไหน มีแต่คำว่าตัวเองๆ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ในโลกนี้มีคนอยู่ถึง ๗ พันล้านคน ถ้าเธอจะหยุดคิดถึงตัวเอง และหันมาคิดถึงคนอื่น ทำเพื่อคนอื่นได้บ้าง มันน่าจะดีกว่านี้

โดยรวมๆ แล้วใครจะว่าไงก็ช่าง เราว่า หนังเรื่องนี้มี Feel-Good Factor เต็มร้อย ใครที่เป็นแฟน Pretty Woman เหมือนเรา ห้ามพลาด ส่วนใครที่ทน Chic Flick ไม่ได้ก็หนีให้ห่าง ไม่งั้นจะมาว่ากันทีหลังไม่ได้เน้อ….

No one can make you feel inferior without your consent. --Eleanor Roosevelt