Diving Trip: Losin : Day 4: 20 Aug 2001

(ต่อจากวันที่ ๓...)

Day 4:วันจันทร์ :เดินทางกลับกทม.

ตื่นขึ้นมาก็เก็บข้าวเก็บของรอบสุดท้าย ตอนนี้เหลือแค่คนที่จะขับรถกลับ คือ ครูกุ้งกับคุณจี๋ และคนที่จะ กลับเครื่องบิน คือ พี่ปุ๊กกับเรา พงศ์กับไต๋ แน็ตกับเมย์ แล้วก็กิ่ง (ซึ่งมากับอีกกลุ่มหนึ่ง ที่มีครูอ๋องเป็นไดฟ์ลีดเดอร์ กลุ่มนี้เขามากันหลายๆ คน แต่เราก็ไม่ได้เข้าไปคุยด้วย แค่ยิ้มๆ มีการเรียกกินกันข้าวกินขนมเล็กน้อย (ต่อม Social ตายไปแล้วจริงๆ) เพิ่งจะมารู้จักชื่อของกิ่งก็เช้าวันเดินทางกลับนี่หละ) กินอาหารเช้าที่เรือเตรียมให้ มีข้าวต้ม กับ ข้าวไข่เจียว (ความจริงจะสั่งอะไรอย่างอื่นเขาก็คงทำให้ได้ ถ้าไม่ใช่เมนูหรูเลิศอลังการเกินไป) ครูกุ้งกับคุณจี๋ออกเดินทางตอนแปดโมง พวกเราที่เหลือมีรถตู้มารับไปสนามบินตอนเก้าโมง

นั่งรถตู้จากท่าเรือไปสนามบินประมาณ ๑๕ นาที สนามบินนราธิวาสดูสภาพไม่เลวเลย กว้างใหญ่โอ่โถงและดูสะอาดดี ตอนแรกๆ ที่เราไปถึงเขายังไม่เปิดแอร์ เปิดประตูหน้าต่างโล่ง คาดว่าเป็นนโยบายประหยัดพลังงาน แต่พอใกล้ๆ เวลาเครื่องออก คนเริ่มมากันเยอะๆ เขาก็เปิดแอร์ จากนราธิวาสไม่มี Flight ตรงเข้ากรุงเทพฯ ต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่ภูเก็ต ตอนที่รอขึ้นเครื่องที่ภูเก็ตก็เดินเตร่ไปเตร่มา กะว่าจะหาอะไรกินมื้อกลางวัน (กลัวว่าการบินไทย – สายการบินแห่งชาติ-- จะไม่เสิร์ฟอาหารกลางวัน เพราะหลังๆ นี่เขามีนโยบายลดต้นทุน งดเสิร์ฟอาหารบน Domestic Flight ถ้าเวลาบินไม่ตรงมื้ออาหาร) แต่ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย มีแต่ขนมกับเครื่องดื่ม ไปเดินดูร้านขายของที่ระลึก เขาก็มีของกินทางใต้พวกปลาหมึกปลากรอบต่างๆ ขาย แต่แพงชะมัดเลย ประมาณว่าแพงเป็น ๒-๓ เท่าของราคาข้างนอก ซื้อไม่ลง แต่แอบไปชิมของเขาฟรีๆ (เขามีตัวอย่างใส่กล่องพลาสติกไว้ให้ชิม) ชิมเสร็จก็ทำท่าไม่รู้ไม่ชี้เดินออกมา… ก็มันแพงนี่นา (แต่มานึกๆ ดู เขาอาจจะตั้งราคาแพงๆ เพราะ มีคนมาชิมฟรีๆ แล้วไม่ซื้อ –อย่างเรา-- บ่อยๆ)

เดินเตร่มาเจอตู้ไอติม ก็เกิดอาการอยากของหวานๆ เย็นๆ ขึ้นมา (เวลาไปดำน้ำสิ่งที่หายากมากๆ คือไอติม) ก็เลยชวนพี่ปุ๊กไปซื้อ หยิบไอติมมาคนละแท่ง พี่ปุ๊กคว้ากูลิโกะป็อกกี้มาด้วย พอคิดตังค์แล้วอึ้งไปเลย ๓ อย่าง ๑๐๐ บาท ไอติมแท่ง ๓๐ ไอติมโคน ๔๐ ป็อกกี้ ๔๐ โห… ราคาเป็น ๒ เท่าของราคาปกติ อย่างงี้มันปล้นกันชัดๆ เลย บ่นๆ กันว่าจะต้องกินไอติมไม่ให้หล่น หรือละลายหยด หรือหกกระเด็นเลย เพราะมันแพงจัง

หลังจากขึ้นเครื่องจากภูเก็ตก็ไม่มีอะไร การเดินทางสงบเรียบร้อยดี ได้อ่านหนังสือพิมพ์ ก็เลยรู้ว่า ๒ วันที่หายไป เรามีข่าวเด่นเรื่องการประท้วงเหม็นๆ ยังดีที่ (หรือจะให้ถูกน่าจะเป็น ยังไม่ดีที่) หนังสือพิมพ์เล่นข่าวนี้ต่ออีกหลายวัน เราก็เลยไม่ตกข่าว (คนที่อยู่เมืองไทยไม่น่าพลาดข่าวนี้ ส่วนคนที่อยู่ต่างประเทศ สรุปข่าวคร่าวๆ ก็คือลุงคนหนึ่งที่จังหวัดกาญจนบุรี แกเอาเงินออมไปซื้อกองทุนของธนาคารออมสินเมื่อตอนก่อนฟองสบู่จะแตก ด้วยความเข้าใจว่าเป็นการฝากเงิน แต่ความจริงมันคือการลงทุนในตลาดหุ้น ปรากฏว่าขาดทุนไปเป็นแสน แกโกรธ แต่ไม่รู้จะทำยังไง เลยเอาอึราดตัวเอง แล้วเข้าไปที่ธนาคาร ผลของการประท้วงยังไม่มีอะไรออกมา แต่ว่าแกได้ความสนใจจากคนทั่วประเทศเลย ก็ไม่รู้ว่าคุ้มหรือเปล่า ตามข่าวลุงแกเอาอึตัวเองที่เก็บสะสมไว้ ๕ วัน มาราดตัว โอ้ย… อย่าพยายามนึกภาพตามเลยนะ) มาถึงดอนเมืองก็เรียกแท็กซี่กลับบ้าน (มีการแย่งชิงแท็กซี่กันเล็กน้อย เบื่อคนที่ไม่รู้จักเข้าคิว มาถึงก็แซงกันไปหน้าตาเฉย)

สรุปการไปดำคราวนี้ เป็นการดำน้ำที่ทรหดมาก ตั้งแต่การเดินทางขาไปที่นั่งทน ๑๕ ชั่วโมงโดยคุยไปตลอดทางและไม่หลับ เป็นการดำน้ำที่เมามากที่สุด อาเจียนแทบจะทุกเวลาหลังอาหาร นอนมากที่สุด ระหว่างไดฟ์ไม่ได้ทำอะไรนอกจากนอน เป็นการดำน้ำที่เขียน Logbook ได้ง่ายที่สุด เพราะไม่มีอะไรจะเขียน

เราคิดว่าคงไปดำน้ำที่โลซินแค่ครั้งเดียวพอ คงไม่ไปซ้ำอีกแล้ว ความจริงถ้าดูในแง่ของสถานที่ดำน้ำโลซินก็จัดว่าดีนะ น้ำก็ใสดี กระแสน้ำก็ไม่แรงมาก ไม่มีไดฟ์ไหนที่ต้องตีขาจนเหนื่อย แต่สิ่งที่มีให้ดูมันไม่ค่อยคุ้มกับความยากลำบากในการเดินทางและความทรมานของการเมาเรือ แต่ถ้าเป็นคนอื่นคงมีโอกาสได้เจอสัตว์ใหญ่ๆ ซึ่งเจอทีหนึ่งก็คุ้มค่า แต่คนดวงจู๋อย่างเรามาแล้วเสียเที่ยว แถมเป็นบาปด้วย เพราะเป็นตัวขัดขวาง ทำให้คนอื่นๆ ที่มาทริปเดียวกันอดเจอแมนต้า (เจอแต่แฟนต้า) อดเจอฉลามวาฬ (มีแต่เครื่องดื่มฉลาม..เป็นขวดๆ บำรุงกำลัง) ไปด้วย คาดว่าทริปต่อไป คงมุ่งไปทางฝั่งอันดามัน น่าจะ work กว่า เห็นปีนี้ฝนตกน้ำเยอะเหลือเกิน สังหรณ์ว่าจะต้องมีอะไรเด็ดๆ ที่สิมิลันหรือสุรินทร์ (เขาว่ากันว่า สภาวะโลกมันจะมีวัฏจักรทุกๆ ๔ ปี ตอนที่เราไปสิมิลันครั้งแรก รู้สึกว่ามันเป็นช่วงของปรากฏการณ์ La Nina พอดี มีปลาให้ดูเยอะมาก มาปีนี้เหมือนรู้สึกจะครบรอบ ๔ ปีพอดี ก็ต้องรอดูกันว่าจะได้ไปไหม แล้วจะเจออะไรเด็ดๆ อย่างที่คาดหรือเปล่า??)


:-:-:-จบบันทึกมาราธอน การไปดำน้ำวันที่ ๑๗–๒๐ สิงหาคม ๒๕๔๔-:-:-:
:-:-:-Day1---Day2---Day3---Day4-:-:-: