Chinese Vegetarian

เทศกาลกินเจเริ่มแล้วตั้งแต่เมื่อวาน (วันอังคาร) แต่จะมีบางคนเริ่มกินตั้งแต่วันจันทร์ เป็นการล้างท้อง แต่ไม่ได้หมายความว่า ล้างท้อง แบบเวลาที่มีคนบอกว่า จะพาไปเลี้ยงข้าว แล้วคนที่ถูกเลี้ยงบอกว่า ต้องล้างท้องก่อนไปกิน อันนี้หมายถึงว่า จะเตรียมเอาสิ่งที่มีอยู่ในท้องออกให้หมด เพื่อที่จะได้กินได้เยอะๆ (แบบนี้คนที่จะเลี้ยงอาจเปลี่ยนใจไม่พาไป เพราะกลัวไม่มีตังค์จ่าย ยกเว้นว่าจะไปกินอาหารบุฟเฟต์) แล้วก็ไม่ใช่ ล้างท้อง แบบที่ต้องไปทำที่โรงพยาบาลนะ อันนั้นใช้เวลากลืนกินสิ่งที่เป็นพิษเข้าไป ทำเองไม่ได้ต้องให้หมอทำให้ ล้างท้องก่อนการกินเจ หมายถึงว่า ล้างเอาสิ่งที่ไม่"เจ" ออกจากร่างกาย เอ… แต่จะว่าไปมัน ๒-๓ อย่างที่พูดมาก็ความหมายเดียวกันนี่นา (ไม่งั้นเขาจะใช้คำเดียวกันรึ!) คือเอาอะไรๆ ที่คั่งค้างในท้องออก แต่จุดประสงค์ต่างกัน แบบนี้เขาเรียกว่าต้องดูที่เจตนาเนอะ

อาทิตย์ที่แล้ว แม่ได้เห็ดโคนมาเยอะแยะเลย หลวงพ่อวัดหนองขามที่พวกเราไปทอดกฐินท่านฝากมาให้ ที่บ้านเรานี่ก็แปลกนะ มีแต่คน"ชอบเอาของมาให้" ปกติคนขายของเขาต้องแจกของให้ลูกค้าใช่ไหม แต่บ้านเรามีแต่รอรับลูกเดียว ถ้าเป็นลูกค้าแถวๆ บ้านก็จะมีผลหมากรากไม้ตามฤดูกาล ซึ่งเราจะชอบมากกว่าผลไม้ที่แม่ซื้อเสียอีก เพราะว่าคนส่วนใหญ่ที่เอาของให้คนอื่น เขาต้องคัดแต่ของดีๆ มาให้ ถ้าให้ของไม่ดีเขากลัวจะโดนว่าว่า ของไม่ดีสิถึงเอามาให้คนอื่น เพราะฉะนั้นถ้าเราไปเห็นมีของกินอะไรที่บ้านแล้วบอกว่า ลูกค้าคนโน้นคนนี้เอามาให้ กินสบายเลยค่ะ อร่อยแน่นอน

นอกจากผลไม้แล้ว บ้านเราใกล้ทะเล ก็มีลูกค้าที่เป็นเจ้าของเรือประมง หรือรถตู้ปลา (อันนี้เป็นศัพท์เทคนิค หมายถึง รถที่ขนส่งกุ้งหอยปูปลา เขาจะรับซื้อจากเรือประมงแล้วเอาไปส่งตามห้องเย็น หรือร้านอาหารต่างๆ) เอากุ้งหอยปูปลา มาให้อยู่เนืองๆ เราจะได้กินกุ้งปูตัวใหญ่ๆ ก็ตอนที่มีลูกค้าเอามาให้นี่หละ ถ้าให้แม่ซื้อเอง แม่ไม่ซื้อหรอก มันแพง กินตัวเล็กๆ ก็ได้ รสชาติไม่ต่างกันหรอก (ก๊อใหญ่ พี่ชายเราเคยถามแม่ ตอนเห็นมีปูตัวใหญ่แช่อยู่ในตู้เย็นว่า "โห… ปูตัวใหญ่จัง ใครเอามาให้เนี่ย?" แม่แหวกลับไปว่า "แหม.. ถามยังงี้ได้ไง เห็นฉันไม่มีปัญญาซื้อปูตัวใหญ่หรือไง? ทำไมไม่ถามว่า ซื้อมากิโลละเท่าไหร่?" ก๊อเลยถามว่า "งั้นซื้อมากิโลละเท่าไหร่ล่ะ?" แม่ตอบว่า "ช่างชินเอามาให้")

อ้าวดูสิ ออกไปนอกเรื่องไปปู้นแล้ว จะเล่าว่า เรากลับไปเห็นเห็ดโคนเยอะแยะที่บ้าน ก็สงสัยว่าต้องมีใครเอามาให้แน่เลย เพราะไอ้เห็ดบ้าเนี่ยมันก็แพงพอดู กิโลละเป็นร้อยๆ นี่แบบว่ารวมเศษดินที่มันติกมากับรากด้วยนะ มันแพงเพราะว่ามันเป็นเห็ดที่ยังเพาะไม่ได้ มีแต่ที่มันขึ้นเองตามป่า แต่หลังจากเหตุการณ์ปูกิโลละเท่าไหร่ เราก็รู้จักฉลาดในการถามขึ้น เราก็เลยไปถามแม่ว่า "โห… แม่ เห็ดเยอะแยะเลย เอามาจากไหนเนี่ย" (หึหึ) คำตอบก็เป็นดังที่คาด (ว่าไม่ได้ซื้อเองแน่ๆ) แต่คราวนี้มาแปลกกว่าเพื่อน แหม… รับของจากลูกค้ามันก็ยังพอทนอ่ะนะ แต่รับของจากพระนี่มันยังไงๆ ชอบกล ความที่เห็ดมันเยอะแยะไปหมด แม่ก็เลยจัดการเอาเห็ดโคนที่ต้มแล้วใส่ถุงมาให้เรากินที่กรุงเทพฯด้วย เป็นกับข้าวเจ เห็ดโคนต้มเนี่ยอร่อยนะ เพราะน้ำที่ออกมามันจะมีรสหวาน (น้ำต้มกระดูก เอ้ย น้ำต้มเห็ด) แม่บอกให้บีบมะนาว ทุบพริกขี้หนูใส่ลงไป เหยาะซีอิ้วหน่อยๆ อร่อยเหาะ ที่แม่ทำน่ะ อร่อยเหาะจริงๆ ส่วนฝีมือเราปรุงจะเป็นยังไงต้องรอลุ้น เพราะเมื่อวานไปดูหนังเลยกินข้าวนอกบ้าน

เดี๋ยวนี้เวลาช่วงเทศกาลกินเจ มีอาหารเจขายเยอะมากๆ เลยสะดวกกับคนกินเจ แต่บางทีก็ลำบากกับคนที่ไม่กิน โดยเฉพาะคนที่เป็นคาร์นิวอร์ (พวกกินเนื้อสัตว์อ่ะนะ) บางทีแทบจะลงแดงตาย เพราะในตลาดมีแต่ร้านขายอาหารเจ ส่วนเราเป็นเฮิร์บบิวอร์ ชอบกินผัก เวลากินเจก็ไม่ค่อยรู้สึกเดือดร้อนเท่าไหร่ จะมีปัญหาก็ตอนที่ต้องอดกาแฟ กับพวกขนมไร้สาระที่กินแก้ง่วงน่ะ อย่างมันฝรั่งทอดกรอบก็กินไม่ได้ ข้าวเกรียบกุ้งมโนราห์สุดอร่อยก็กินไม่ได้ (ขอโฆษณาให้ข้าวเกรียบมโนราห์หน่อย เพราะเป็นสุดยอดผลิตภัณฑ์ขนมไทย มีส่งออกไปขายต่างประเทศด้วย เขาเริ่มจากร้านทอดข้าวเกรียบเล็กๆ เองนะ เห็นเก๋พี่สาวเราบอกว่า ฟริโต้-เลย์ จะมาซื้อโรงงานและยี่ห้อ ให้ราคา ๔๐๐ ล้าน ทั้งที่ทรัพย์สินมีมูลค่าไม่ถึงครึ่ง คือค่า Goodwill เยอะกว่าทรัพย์สิน แต่เจ้าของไม่ขาย บอกว่า อยากให้มโนราห์เป็นสินค้าของคนไทย .. ขอปรบมือให้ค่ะ)

ที่บอกว่าไปดูหนังมาเมื่อวาน ไปดู Bridget Jones' Diary ไม่อยากพูดถึงเลย เรื่องมันเศร้า… ใครว่ามันเป็นหนังตลกฟะ? สาวโสดอายุ(ใกล้)๓๐ อย่างเราดูแล้วเศร้าชะมัด อืมม์… แต่ถ้าเลิกคิดว่ามันเหมือนชีวิตรันทดของสาวขึ้นคานมากเกินไป (ยกเว้นตอนจบที่ Happy Ending แบบว่านางเอกเจอคนที่รักเธอ "อย่างที่เธอเป็น" เราว่าแบบนั้นมันมีแต่ในหนัง -- ชะอุ๋ย!! ใครยังไม่ได้ดูอย่าด่าเรานะ เรื่องแบบนี้มันเดาได้อ่ะนะ ไม่ได้เป็นการเล่าพล็อตแต่อย่างใด แหะๆ) หนังก็ดูสนุกดีนะ หลังๆ นี่เราเข้าไปดูหนังโดยไม่พกความคาดหวังไป ดูหนังสนุกขึ้น เรื่องนี้พกความหวังเข้าไปเล็กน้อย คิดว่ามันจะน่าสนุก เพราะได้ยินเสียงวิจารณ์ดีเหลือเกิน ซึ่งก็ไม่ผิดหวัง

ดู Bridget Jones' Diary แล้วนึกถึง Four Weddings and A Funeral เลย (เราดู Four Weddings ตั้งหลายรอบ ทุกรอบก็จะเชียร์ให้พระเอกไปตกลงแต่งงานกับเพื่อนสนิทผู้หญิงที่แอบรักพระเอกมานานแต่ไม่ยอมบอก แต่ก็ไม่สำเร็จ พระเอกดันไปหลงรักสาวอเมริกัน Andie MacDowell อยู่ได้) ให้อารมณ์คล้ายๆ กัน สนุกดี มีคำพูดกัดๆ ตามนิสัยคนอังกฤษ แล้วแถมมีมุขให้ดูตามหลังเครดิตท้ายเรื่องเหมือนกันอีกด้วย ซึ่งทำให้ เราได้มีโอกาสดูเครดิตท้ายเรื่องเป็นของแถม เพราะปกติโรงหนังเขาชอบเปิดไฟไล่คนออกจากโรง วันก่อนไปดู Atlantis กะจะดูซักหน่อยว่าใครเป็นใคร (คนพากย์) พี่แกเปิดไฟสว่างพรึ่บ แถมปิดเครื่องฉายหนังอีกตะหาก น่าจะไปตามพวกบริษัทหนังมาดู จะได้โดนฟ้องละเมิดลิขสิทธิ์หนังกันให้เข็ด!!

ลป. (=ลืมไป) สงสัยว่าคำว่า กินเจ เนี่ยมันมาจากภาษาจีนอะไร?? จะเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่าอะไรดีหว่า เราจั่วหัวว่า Chinese Vegetarian แต่เหมือนเคยได้ยินแว่วๆ จากที่ไหนไม่รู้ว่า เขาจะใช้คำว่า Fast/Fasting (เหมือนการถือศีลอดของอิสลาม) เพราะมันเคร่งมากกว่า Vegetarian (มังสวิรัติ) เหอะ… ช่างมันดีกว่า