Today's is non-sense..

เมื่อวันจันทร์ไดัรับงานแบบส้มหล่น เพราะคนที่รับผิดชอบจริงๆ เขาลาพักร้อน เขาต้องการให้เสร็จ midweek พวกฝรั่งนี่ก็แปลกนะ สั่งงานกันยังไงไม่รู้ ทุกอย่างด่วนหมด เห็นเราเป็นอะไรฟะ อืมม์… บ่นไปงั้นหละ ยังไงก็ต้องทำให้เขาให้เสร็จ แต่กว่าเราจะได้เริ่มงาน ก็ตอนใกล้เที่ยงแล้ว แถมแบ่งงานไปให้อีกคนหนึ่งทำ เขาก็ยังทำไม่ค่อยคล่อง เย็นวันจันทร์ก็เลยทำไม่เสร็จ ต้องส่งอีแมวไปบอกเขาว่า "ฉันทำงานให้เธอไปบ้างแล้ว แต่ยังไม่เสร็จหรอกนะ แล้ววันอังคารก็เป็นวันหยุด วันพุธกลับมาฉันจะทำให้เสร็จภายในตอนเย็นของฉัน (เป็นตอนเช้าของเธอ) รับรองทันตามกำหนดของเธอแน่ๆ…"

เขาตอบอีแมวเรากลับมาว่าไงรู้ไหม… เขาตอบว่า "Thanks, I know as you get older things just don't seem to get finished quite as fast as they use to!!!" หนอย… เห็นเราเป็นเพื่อนเล่นหรือไงฟะ มาพูดเรื่องก่ง เรื่องแก่… อ่านอีแมวจบก็ชั่งใจว่าจะทำงานให้เขาให้เสร็จดีไหม กะว่าจะแกล้งส่งอีแมวไปบอกว่า "วันนี้ฉันป่วยจ้ะ ได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจ คิดว่าคงไม่สามารถทำงานให้เธอได้ทัน" หึหึ… พูดเล่นน่ะ… เรารู้ว่าอีตาคนนี้แกล้งแซวเราหรอก (แต่แซวแรงเหมือนกันอ่ะ ไม่รู้หรือไงว่า ผู้หญิงอายุเท่าเรานะ vulnerable ขนาดไหน เวลาพูดถึงอายุ เอิ๊กๆ นี่ดีนะว่าเราไม่คิดมาก แต่อย่าเผลอนะเฟ้ย จะต้องหาวิธีกัดกลับให้ได้ ฮ่าๆ)


In my humble Opinion

ในความสัมพันธ์ที่มีปัญหา คนที่ก่อปัญหามักเป็นคน ๒ ประเภท ๑. คนที่ไม่ยอม say no กับ ๒. คนที่ไม่ยอม accept no as the answer

คนประเภทแรก ไม่ยอม say no ออกมาตรงๆ เพราะกลัวอีกฝ่ายจะเสียใจ ไม่อยากทำร้ายจิตใจเขา แต่หารู้ไม่เขากำลังทำให้คนที่น่าจะได้หลุดออกจาก Impossible Relationship ต้องเสียเวลาติดอยู่ในวังวนอีกไม่รู้นานเท่าไหร่ ขอเถอะ ถ้ารู้ตัวว่ากำลังตกอยู่ในสภาพนั้น รู้ว่าความสัมพันธ์มันไม่ work ขอให้คุณได้พูดมันออกมาเป็นคนแรก อย่าได้ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน อย่าคิดว่าสถานการณ์มันจะคลี่คลายไปเอง มันไม่คลี่คลายหรอก บางทีคนเราก็ต้องทำตัวโหดร้ายเหมือนกันแต่เราทำไปเพราะความหวังดี ถ้าเขาได้รับคำปฏิเสธเสียแต่ต้น อาจเสียใจน้อยกว่าเสียเวลาน้อยกว่า (เหมือนความอ้วนอ่ะน่ะ ถ้าปล่อยนานๆ ไปจะอ้วนเยอะๆ แล้วจะลดยาก รีบๆ ลดตั้งแต่เนิ่นๆ ยังไม่อ้วนมาก จะลดได้เร็วกว่า… เกี่ยวกันไหมเนี่ย) คนอื่นอาจคิดว่าการบอกปฏิเสธคือการทำร้ายจิตใจ เรากลับคิดว่า มันคือการช่วยกันมากกว่า คนนั้นเขาจะได้รีบๆ ตัดใจ และจะได้มองเห็นโอกาสใหม่ๆ ที่รอเขาอยู่ข้างหน้า

คนประเภทที่ ๒ ไม่เชื่อว่า No = No แต่เชื่อว่า ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก เราเชื่อว่าคนส่วนใหญ่มีวิจารณญาณพอที่จะตัดสินในการจะตัดสินใจว่าความสัมพันธ์มันจะ work หรือเปล่า ถ้าคุณโดนปฏิเสธซักครั้งสองครั้ง คุณอาจจะคิดว่า เขาปฏิเสธเพราะความไม่แน่ใจ หรือยังไม่ตัดสินใจ หรือมีฟอร์ม แต่ถ้าคุณโดนปฏิเสธซัก ๑๐ ครั้ง ๒๐ ครั้ง หรือมากกว่า เชื่อเถอะว่าคนที่ปฏิเสธคุณ เขาได้ไตร่ตรองมาดีแล้วก่อนการปฏิเสธ เชื่อเถอะว่าเขาต้องใช้ความกล้าหาญในการที่จะบอกกับคุณอย่างตรงไปตรงมา เชื่อเถอะว่าเขาทำเพราะความปรารถนาดี อย่าไปเสียเวลาตื๊อเลย เสียเวลาทั้งตัวคุณเอง เสียเวลาทั้งอีกฝ่ายหนึ่ง แถมยังสร้างความลำบากใจให้กัน แทนที่จะจากกันไปด้วยดี

ทั้งนี้เป็นข้อสังเกตของเรา ขอออกตัวไว้เลยว่าเป็นข้อสังเกตเฉยๆ ยังไม่มีหลักฐานอะไรมาพิสูจน์หรือสนับสนุน เพราะฉะนั้นอ่านแล้วควรใช้วิจารณญาณก่อนการนำไปปฏิบัติจริง