My Dad's Favourite Restuarant

เมื่อวานเป็นวันเกิดในหลวงและเป็นวันพ่อ ปิยธิดาเขียนเรื่องพ่อของฉัน เราอ่านแล้วก็อยากเขียนเรื่องพ่อ(เตี่ย)ของเราบ้าง แต่คงต้องรอไปก่อนนะ (อิอิ) ส่วนกอล์ฟสปายเกิร์ลเขียนเรื่องในหลวง เราก็อยากเขียนบ้างเหมือนกัน แต่ไม่รู้จะเขียนอะไร วันก่อน (วันที่ ๔) ตอนเย็นขับรถออกจากที่ทำงาน ได้ฟังในหลวงพูดทางวิทยุนิดหนึ่ง เสียดายไม่ได้ฟังตั้งแต่แรก ก็เลยต้องไปหาอ่านเอาที่เครือข่ายกาญจนาภิเษก ใครไม่ได้ฟังก็ไปอ่านได้ที่นี่นะ เขามีของปีก่อนๆ ด้วยนะ

วันพ่อปีนี้ เราต้องทำหน้าที่ลูกที่ดีเพียงคนเดียว ไม่เหมือนปีที่แล้วที่ยังมีเก๋พี่สาวมาช่วยแชร์ภาระ ปีนี้ก็หมือนปีที่ผ่านๆ มา คือแม่กับลูกๆ (ปีนี้เหลือแค่"ลูก"เดียว) ก็ชวนคุณเตี่ยออกไปกินข้าวกลางวันกัน เราบอกว่า วันนี้เป็นวันพ่อต้องให้คุณพ่อเลี้ยงดีกว่า หุหุหุ (ปกติเวลาไปกินข้าวนอกบ้านแม่จะเป็นคนจ่าย แต่ว่าแม่ก็เอาสตางค์มาจากเตี่ยอยู่ดี เวลาเตี่ยเอากระเป๋าตังค์วางไว้หน้ากระจกเครื่องแป้ง แม่ก็มาหยิบตังค์ไป ไม่ยอมบอก ทำเอาเตี่ยงงว่าทำไมเตี่ยใช้ตังค์เปลืองจัง เดี๋ยวหมดๆ)

เมื่อวานไปกินกันที่ร้านนายแกละ (แต่บางทีที่บ้านเราจะเรียกว่าร้านตาแกละ) ซึ่งเป็นร้านสุดโปรดและร้านในอุปถัมภ์ของเตี่ย เมื่อก่อนโน้นตอนที่เศรษฐกิจฟองสบู่ยังไม่แตก ร้านนายแกละเขากิจการดีมากๆ คนมากินอาหารที่ร้านเขาเยอะ แต่พอฟองสบู่แตก กิจการเขาก็ไม่ค่อยดี แค่พออยู่ได้เท่านั้น เพราะว่าเขาขายอาหารทะเลสดๆ ราคาสูง คนจะมากินบ่อยๆ ไม่ค่อยได้ แต่ที่บ้านเราก็ไปอุดหนุนเขาอยู่เป็นประจำ เพราะเตี่ยชอบ

เตี่ยบอกว่าอาหารเขามีคุณภาพ อาหารอร่อยเสมอต้นเสมอปลาย ทั้งนี้เพราะว่าไม่เคยเปลี่ยนคนครัว (เรียกเป็นกลางๆ ไว้ เพราะกินอาหารร้านเขามาตั้งนานก็ไม่รู้ว่าเป็น พ่อครัว หรือแม่ครัว) คนครัวของเขา รู้สึกว่าจะเป็นญาติของนายแกละเจ้าของร้านเอง เลยไม่มีการลาออก ไม่เหมือนร้านอาหารแถวๆ ดอนหอยหลอดที่คนกรุงเทพฯ หรือคนต่างถิ่นชอบไปกินกัน แถวนั้นเปลี่ยนพ่อครัวแม่ครัวกันถี่มาก เพราะฉะนั้นไม่ต้องแปลกใจถ้าไปกินคราวหนึ่งอร่อย แต่พอย้อนกลับไปกินอีกรอบ แล้วรู้สึกว่ารสชาติไม่เป็นสรรพรส (หรือที่คนชอบพูดเพี้ยนๆ ว่ารสชาติไม่เป็นสัปปะรด)

ที่บอกว่าเป็นร้านอุปถัมภ์ของเตี่ย ก็เพราะว่าเตี่ยเห็นว่าเขาขายอาหารอร่อยมีคุณภาพ แต่ไม่ค่อยมีคนมากิน (เพราะใกล้ๆ กันกับเขาจะมีร้านอาหารมาเปิด ชื่อร้านเพื่อน เขาขายอาหารราคาถูกกว่าก็เลยเป็นที่นิยมมากกว่าในช่วงเศรษฐกิจตกสะเก็ด แต่เตี่ยไม่ชอบไปกิน บอกว่าอาหารเขาไม่อร่อย แต่ก๊อใหญ่บอกว่า เตี่ยไม่ชอบเพราะเขาทำอาหารรสจัดเกินไป) เวลามีแขกมาที่บ้านแล้วจะพาไปเลี้ยงอาหาร เตี่ยก็จะไปแต่ร้านนายแกละ ไม่ค่อยยอมไปร้านอื่น เตี่ยให้เหตุผลว่า ไปแล้วคนกินไม่ผิดหวัง คนพาไปก็ไม่เสียชื่อ (แต่พวกลูกๆ เห็นว่า ที่จริงแล้ว เหตุผลจริงๆ คือ เตี่ยชอบ -- คือความรักความชอบมันเป็นอารมณ์น่ะนะ ไม่ค่อยมีเหตุผลกันหรอก ชอบก็เพราะชอบไง)

นอกจากนี้ทั้งเตี่ยและแม่ก็จะคอยเป็นห่วงเป็นใยกิจการของร้านนายแกละ เวลาขับรถผ่านก็จะคอยมองเข้าไปในร้านว่ามีรถจอดไหม ถ้าวันไหนไม่มีรถจอด ก็จะบ่นว่า "แย่จัง ไม่มีคนเลย" วันไหนมีรถจอด ก็จะดีใจด้วย บอกว่า "เออ… ค่อยยังชั่วหน่อย วันนี้มีลูกค้าบ้าง" (แม่เรายิ่งเด็ดกว่า พอเลยไปผ่านหน้าร้านเพื่อน ซึ่งมักจะมีรถจอดเยอะเป็นประจำ แม่ก็จะบ่นว่า "โห… น่าอิจฉาร้านเพื่อน น่าสงสารร้านตาแกละ")

เมื่อก่อนเราเคยสังเกตว่า เวลาเราที่เตี่ยไปกินอาหารที่ร้านนายแกละ ตอนที่เราเข้าไป จะไม่มีแขกอยู่ก่อนหน้านั้น ร้านดูหงอยเหงา แต่พอเราเริ่มสั่งอาหารได้แป๊บหนึ่ง ก็มักจะมีแขกคนอื่นๆ ตามเข้ามา เป็นอย่างนี้หลายครั้งมาก จนเราล้อเตี่ยว่า "เนี่ย เตี่ยเป็นคนเรียกแขกเข้ามา" เตี่ยก็หัวเราะ มันเป็นอย่างนี้หลายๆ ครั้งมาก จนเวลาเราจะไปกินอาหารที่ร้านนายแกละ เราจะพูดว่า "ไปช่วยร้านตาแกละหน่อย" มีอยู่ครั้งหนึ่ง เราเข้าไปเป็นโต๊ะแรก แล้วมีคนอื่นๆ ตามเข้ามาอีกหลายโต๊ะมาก ก๊อใหญ่พี่ชายเราพูดกับนายแกละว่า "นี่ๆ คุณแกละ ทีหลังต้องให้เตี่ยผมกินฟรีแล้วหละมั้ง เพราะมากินทีไร แขกมากินอาหารเยอะทุกที เตี่ยผมช่วยเรียกแขกให้" นายแกละบอกว่า "นั่นสิ เวลาเถ้าแก่มากินทีไร แขกเข้าร้านเยอะจริงๆ ครับ" อย่างนี้จะไม่ให้เรียกว่าเป็นร้านอุปถัมถ์ของเตี่ยได้ยังไง

แต่เดี๋ยวนี้กิจการของนายแกละเขากลับมาดีขึ้นมาอีกแล้วนะ ถึงแม้จะไม่ดีเท่าสมัยก่อน แต่ก็ไม่ลำบาก ไม่ต้องรอให้เตี่ยเราไปช่วยกินเรียกแขกให้แล้ว อย่างเมื่อวานที่เตี่ยพาแม่กับเราไปเลี้ยงวันพ่อ (อิอิ) ก็มีคนมากินกันหลายโต๊ะ ต้องรออาหารนานเหมือนกัน อาหารที่สั่งก็มีเมนูเด็ดของร้าน คือ กุ้งเหยียบน้ำ (คล้ายๆ ต้มยำน้ำใส กับจิ้มจุ่มรวมกัน คือ เขาจะทำน้ำต้มยำรสเปรี้ยวเผ็ดอร่อยใส่หม้อไฟมา แล้วก็มีกุ้งสดๆ มาให้ ๑ จาน เราก็เอากุ้งนี้ ไป"เหยียบน้ำ" คือลงไปลวกให้สุกพอประมาณ แล้วก็เอาขึ้นมาจิ้มน้ำจิ้มรสเด็ด กินไปพร้อมกับซดน้ำต้มยำ โอย… บรรยายไปน้ำลายไหลไป… เอื๊อก!!) ปูทะเลนึ่ง (ตัวโต ก้ามใหญ่สีส้มแจ๋ ที่จริงร้านนายแกละเขาทำปูผัดน้ำพริกเผารสเด็ดมากๆๆ เตี่ยบอกว่ากินที่ไหนก็ไม่อร่อยเท่า แต่เมื่อวานอยากกินปูนึ่งมากกว่า) ยำวุ้นเส้น ข้าวผัดปู อาหารแค่ไม่กี่อย่างแต่อิ่มอร่อยสบายใจ เตี่ยเป็นคนจ่ายค่าอาหาร เราก็เลยทำหน้าที่ลูกที่ดีโดยเป็นสารถีขับรถให้ทั้งขาไปขากลับ (งานหนักมากนะนั่น)


Update: ทางไปร้านนายแกละ

เขียนบรรยายเกี่ยวกับร้านนายแกละซะเยอะแยะ คนอ่านอาจจะสงสัยว่าร้านอยู่ที่ไหน ร้านนายแกละเขาอยู่ที่แม่กลอง (สมุทรสงคราม บ้านเกิดเราเอง) อยู่บนถนนปากท่อสายเก่า เป็นถนนที่ขนานกับถนนพระราม ๒ เวลาบอกแบบนี้คนที่ไม่ใช่คนแถวๆ นั้นจะไม่รู้จัก เราจะลองพยายามอธิบายดู ถ้าใครจะไปแถวๆ นั้นก็ตัดเอาที่เราบรรยายติดรถไปด้วย แล้วขับตามก็ไม่น่าจะหลง แต่ถ้าหลงจริงๆ ถามคนแถวๆ นั้นก็ได้ เขารู้จักกันทั้งนั้นแหละ

เวลามาจากกรุงเทพฯ ก็มาทางเดียวกับที่จะไปดอนหอยหลอดน่ะแหละ แต่ไม่เลี้ยวเข้าไปทางดอน วิ่งตามถนนพระราม ๒ มาเรื่อยๆ ข้ามสะพานพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (สะพานที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นสะพานที่ยาวที่สุดในประเทศไทย) ข้ามมาแล้วก็วิ่งมาอีกซัก ๑ กม. ก็ชิดซ้ายวิ่งกลับรถออกมาในทางขนาน (ขอเตือนว่า ลงจากสะพานมาแล้วอย่าซิ่งมาก ให้ชลอๆ เตรียมชิดซ้ายเอาไว้ ไม่งั้นเดี๋ยวเลยที่กลับรถ) แล้ววิ่งย้อนในทางขนานไปกลับรถใต้สะพาน(ที่เพิ่งวิ่งข้ามมา)

พอพ้นจากใต้สะพานปุ๊บก็จะมองเห็นทางแยกด้านขวามือ ก็เลี้ยวขวาเข้าไป วิ่งตามทางไปเรื่อยๆ จนเจอสะพานข้ามคลอง ข้ามสะพานแล้วจะเจอสามแยกเป็นตัวที (ตรงนี้เรียกแยกวัดปทุมฯ) ก็เลี้ยวซ้ายไป(รู้สึกจะมีป้ายเขียนว่าไปราชบุรี) วิ่งตามทางไปเรื่อยๆ จนเจอสามแยกตัวทีอีกทีหนึ่ง (ซึ่งก็คือถนนปากท่อสายเก่าที่ว่าไง) ก็เลี้ยวซ้ายเข้าถนนปากท่อสายเก่า วิ่งไปเรื่อยๆ ประมาณซัก ๖-๗ กม. (ไม่แน่ใจนะ เพราะเราเป็นโรคกะระยะทางไม่เก่ง เอาเป็นว่าไม่น่าจะเกิน ๑๐ กม. นะ) ร้านนายแกละอยู่ซ้ายมือ

ก่อนถึงร้านนายแกละมีสะพานใหญ่ๆ ๑ สะพาน คือระหว่างทางไปเนี่ยมันจะมีสะพานเยอะ แต่เป็นสะพานเล็กสะพานน้อย พอเจอสะพานใหญ่ๆ สะพานแรกก็เตรียมตัวเลย ลงจากสะพานก็มองทางซ้ายมือ เห็นป้ายแน่นอนไม่พลาด แต่ถ้าพลาดจริงๆ ขับเลยไปหน่อยจะเห็นร้านอาหารอีกร้านหนึ่ง มีรถจอดเต็มพรืด นั่นคือร้านเพื่อนที่แม่เราบ่นอิจฉา ถ้าเห็นร้านเพื่อนแล้ว แสดงว่าเลยร้านนายแกละ ให้วนไปหน้าร้านพื่อนแล้วเปิดกระจกไปบอกถามให้คนในร้านได้ยินทั่วๆ กันว่า "จะไปกินอาหารที่ร้านนายแกละ ร้านเขาอยู่ไหนช่วยบอกที" ร้านเพื่อนเขาจะได้อิจฉาร้านนายแกละบ้างไง (อิอิ)

ลืมบอกไปว่า ถ้าไปถึงแล้ว ต้องสั่ง หมูย่างอบน้ำผึ้ง กับ หอยกระทะ ด้วย แต่ที่เราไม่ได้สั่งเมื่อวานเพราะคนน้อย กินกันไม่ไหว อ้อ.. เราเห็นเขามีเมนูใหม่ ชื่อ กุ้งนรก แค่ฟังก็แซบน่าดู แต่ไม่ได้ลอง เพราะเตี่ยไม่ชอบกินเผ็ด (เขาเขียนกำกับไว้ว่า ไม่เหมาะกับคนไม่ชอบทานเผ็ดน่ะ) กะว่าจะต้องชวนก๊อเล็ก (พี่ชายคนรอง) ไปลองกินให้ได้ เพราะขานั้นเขาเซียนอาหารเผ็ด

อ้อ… บางคนที่เคยผ่านไปแถวถนนรัชดาภิเษกตรงข้ามศาลอาญาฯ อาจจะเคยเห็นร้านอาหารนายแกละ ร้านนั้นไม่ใช่ของนายแกละนะ เขาเล่าว่ามีอยู่ช่วงหนึ่ง เจ้าของร้านนั้นเขาเคยขอให้นายแกละไปช่วยคุมพ่อครัวทำอาหาร คิดเมนูให้ แล้วให้เงินนายแกละเป็นรายเดือน (นัยว่าเป็นค่า License ของยี่ห้อนายแกละ) แต่นายแกละบอกว่าเขาจ่ายเงินให้แค่ไม่กี่เดือนแล้วก็ไม่ให้อีก บอกว่าร้านขาดทุน แล้วก็ปิดร้านไป เจ้าของเขามีอิทธิพล นายแกละก็เลยว่าอะไรไม่ได้ แต่พอมาตอนหลัง (เพิ่งไม่นานมานี้เอง) เขาก็มาเปิดร้านอีก แต่นายแกละบอกว่าไม่เห็นรู้เรื่อง และไม่ได้เงินจากเจ้าของร้านนั้น สรุปว่าร้านตรงรัชดานี่ เป็นชื่อนายแกละแต่ไม่เกี่ยวข้องกับนายแกละจ้ะ

ไหนๆ พูดถึงแล้วก็ต่อไปให้จบเลยละกัน… ยังมีร้านนายแกละอีกร้านหนึ่งอยู่ที่พัทยา ร้านนี้สิเกี่ยวกับนายแกละที่แม่กลองจริง แต่ไม่เชิงเป็นสาขาซะทีเดียว คือคล้ายๆ กับร้านที่รัชดาตอนแรก คือมีคนเขามากินอาหารที่ร้านนายแกละแล้วติดใจเลยอยากให้ไปเปิดที่พัทยา นายแกละก็ไปสอนพ่อครัวเขาทำอาหารตามสูตรของนายแกละ มีเมนูเดียวกับที่แม่กลองเด๊ะ เจ้าของเขาก็จ่ายเงินให้นายแกละเป็นค่าลิขสิทธ์ ซักสองสามเดือนนายแกละเขาก็จะไปดูที่ร้านนั้นทีนึง ใครผ่านไปทางพัทยาจะลองไปชิมที่นั่นก่อนก็ได้ เราไม่เคยไป แต่ได้ข่าวมาว่ารสชาติก็อร่อยไม่แพ้ต้นตำรับเหมือนกัน