I... I... I... Bronchitis
วันนี้ไม่ไปทำงาน เพราะไม่สบาย (ข้ออ้างคือ หมอบอกว่าให้พักผ่อนมากๆ ให้ร่างกายแข็งแรง และเราไม่อยากเอาเชื้อโรคไปติดคนอื่นๆ) เราเริ่มไอโขลกๆ มาตั้งแต่วันพฤหัสที่แล้ว ตอนที่เราไม่ไอมันก็ไม่ทรมานอะไรมาก ไม่เจ็บคอด้วยซ้ำ แค่รู้สึกว่าคอแห้งๆ และคันๆ คอ คล้ายกับจะเป็นหวัด แต่พอตอนที่ไอขึ้นมา แต่ละทีมันทรมานมาก แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก เหนื่อย เราอยากลางานตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วแล้วหละ แต่ความที่งานมันก็สุมกระหน่ำเข้ามา มี Deadline ต้องเสร็จวันจันทร์ จะลางานก็ลาไม่ได้ เราก็เลยทนไปทำงาน

พอวันเสาร์อาการไอรุนแรงมากขึ้น กลางคืนนอนๆ อยู่ก็ลุกขึ้นมาไอๆ ไอไปแน่นหน้าอกไป ไอจะตายอยู่แล้ว (ไอ หมายถึง “I” ที่แปลว่า อีฉัน อ่ะนะ) จนจะทนไม่ได้คิดว่าต้องไปหาหมอเสียแล้ว แต่ก็ไม่ได้ไปหาจนกระทั่งเมื่อวาน พอเราเคลียร์งานให้เขาจนเรียบร้อย (ความจริงเราทำให้เขาเสร็จตั้งแต่วันพฤหัสแล้ว แต่วันศุกร์เขาส่งงานมาเพิ่มอีก) ตอนเย็นเรามีเรียนด้วย ก็ตั้งใจว่าจะโดดเรียน แต่พอดีมีเพื่อนต้องการจะยืมสมุดเล็กเชอร์ของเรา ก็เลยไปเรียนเสียหน่อย คิดว่าจะแวะหาซื้อยาอมแก้ไอ แล้วเลิกเรียนจะแวะหาหมอ แต่พอดีตอนขับรถไปเรียนเห็นคลีนิกหมออยู่ในซอยที่เราจะไปเรียน ก็เลยแวะเข้าไปหา

หมอถามๆ อาการแล้วก็ให้เราอ้าปาก เอาไม้ยาวๆ มาจิ้มๆ ดูคอเรา แล้วก็ถามว่า ที่ทำงานมีคนเป็นกันเยอะไหม เราบอกว่า ไม่ค่อยเห็นมี เขาบอกว่า หลอดลมเราอักเสบเป็นจุดๆ เพราะมีเชื้อไวรัสไปติดที่ผนังหลอดลม เชื้อโรคตัวนี้มันกำลังระบาด คนเป็นกันเยอะ อาการมันก็คือจะระคายคอ ไอ แต่ไม่ค่อยมีเสมหะ ความที่มันเป็นเชื้อไวรัส (เหมือนเชื้อหวัด) มันก็เลยไม่มียารักษา ต้องให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น แล้วเชื้อมันจะหายไปเอง แต่เขาก็ให้ยาเรามา เป็นพวกยาขยายหลอดลม (จะได้ไม่แน่นหน้าอกเวลาไอ) ยาแก้ไอ (ซึ่งเราเคยอ่านที่ไหนไม่รู้เขาบอกว่า ยาแก้ไอปกติจะมียาที่ทำให้ง่วงเยอะๆ เอาไว้ใช้สำหรับคนที่ตอนกลางคืนชอบตื่นขึ้นมาไอ ยามันไม่ได้ทำให้หายไอ แต่มันทำให้ง่วงมากจนลุกขึ้นมาไอไม่ไหว เหะๆๆ) หมอบอกว่า ให้พักผ่อน (นี่ไงๆ เราต้องการการพักผ่อน ไม่ควรไปทำงาน อิอิ อิอิ) แล้วก็กินน้ำเยอะๆ จะช่วยให้อาการระคายคอ อยากไอลดลง

หาหมอเสร็จก็ไปเรียน เรากลัวไปไอในห้องเรียน ก็เลยหยิบน้ำไปขวดหนึ่ง พออยากจะไอก็เอาขึ้นมาจิบๆ ไปเรื่อยๆ พอพักครึ่งน้ำเราก็หมดขวดเสียแล้ว เลยต้องเอามาเติมอีกครึ่งขวดกว่าๆ พอครึ่งหลังเราจิบน้ำหมดไปแล้วตั้งแต่ตอนสองทุ่มกว่าๆ (เลิกเรียน ๓ ทุ่ม) อาการเราก็ชักจะไม่ค่อยดี เพราะเริ่มไออีกแล้ว และมันจะลำบากเป็นสองเท่า เพราะไอแล้วเสียงมันจะดังรบกวนคนอื่น ต้องพยายามไอเบาๆ แถมเราก็เริ่มปวดฉี่อีกตะหาก (ก็กินน้ำเขาไปตั้งลิตรกว่าๆ) เกือบทนไม่ไหวจะต้องหนีออกมาก่อนเสียแล้ว แต่ในที่สุดก็เลิกเรียน เรารีบวิ่งออกมาไอให้สะใจ แล้วก็วิ่งไปห้องน้ำ เฮ้อ...

ภาษาอังกฤษวันละคำ :-)
คำว่า Bronchitis ที่เป็นชื่อไดอะรี่วันนี้ อ่าน (ประมาณๆ) ว่า บรองไคทิส แปลว่าหลอดลมอักเสบ ความจริงเราเคยรู้จักศัพท์คำนี้มาบ้างเลาๆ แต่พอดีเราแอบเห็นหมอพิมพ์คำนี้ลงไปตอนกรอกประวัติอาการเรา ก็เลยเอามาเป็นชื่อหัวข้อไดอะรี่ แล้วไหนๆ ก็ไหนๆ เราก็เลยแปลให้ด้วยเลย เผื่อบางคนอาจจะไม่เคยได้ยิน หวังๆ ว่าจะเขียนอะไรที่เป็นสาระความรู้บ้างไง หุหุหุหุ