Prague: Travelling
เรานั่งเครื่องบินสองต่อ จากกรุงเทพไปเวียนนาใช้เวลา 11 ชั่วโมง เครื่องออกตอนห้าทุ่ม ไปถึงเวียนนาตอนตีห้า รอต่อเครื่อง 2 ชั่วโมง ซึ่งก็นับว่าดีไป เพราะเราต้องไปออก Boarding pass ไฟลท์เวียนนาปรากที่เวียนนา (ตอนที่เช็คอินกับที่กรุงเทพฯ EVA เขาออก Boarding pass ให้เราไม่ได้ เพราะเป็นคนละสายการบินกัน) จากเวียนนาไปปรากใช้เวลา 1 ชั่วโมง รวมใช้เวลาเดินทาง 14 ชั่วโมง ขากลับใช้เวลาน้อยกว่า คือจากเวียนนามากรุงเทพฯใช้เวลาแค่ 10 ชั่วโมง 20 นาที และรอต่อเครื่องแค่ชั่วโมงเดียว

P>นอกเรื่องหน่อยหนึ่ง ตกลงเราก็ยังไม่รู้ว่าทำไมเวลาที่เครื่องบินบินจากทิศตะวันตกไปตะวันออก ใช้เวลาน้อยกว่าบินจากตะวันออกไปตะวันตก เคยมีคนบอกว่าเป็นเพราะบินสวนกับโลกหมุน ระยะทางที่ต้องบินเลยน้อยลง แต่เราคิดว่าเครื่องบินยังบินไม่สูงเกินชั้นบรรยากาศ โลกหมุนเครื่องบินก็น่าจะหมุนไปด้วย (ตามทฤษฎีสัมพันธภาพ) แต่มีอีกกระแสหนึ่งบอกว่า เป็นเพราะทิศทางลมมากกว่า คือบินจากทางตะวันตกไปตะวันออกเป็นการบินตามลม เครื่องบินมีลมส่งท้ายเลยถึงเร็ว แต่เราคิดว่าเขาน่าจะมีการควบคุมความเร็วว่าบินที่อัตราเร็วเท่าไร ถึงมีลมส่งท้ายเขาก็ไม่น่าจะบินที่ความเร็วมากกว่าเดิม ลมส่งท้ายน่าจะช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงมากกว่า มีข้อโต้แย้งทั้งสองกรณี ก็เลยไม่รู้เหมือนกันว่าอันไหนเชื่อถือได้มากกว่ากัน

จากกรุงเทพฯไปเวียนนาเรานอนหลับตลอดทั้งที่ตอนแรกตั้งใจว่าจะ “ทำการบ้าน” คืออ่านหนังสือไกด์เตรียมวางแผนเที่ยว แต่ความที่อาการป่วยชักจะแย่ เราก็เลยกินยาแล้วก็นอนตั้งแต่เครื่องเทคออฟ ตื่นมาอีกทีก็ตอนเขาเสิร์ฟอาหารเช้าก่อนจะถึงเวียนนา เห็นเตี่ยก็นอนหลับได้ไปเยอะเราก็ค่อนข้างจะโล่งใจ เพราะเตี่ยจะอดนอนไม่ค่อยได้ ถ้านอนไม่พอจะเวียนหัวและรู้สึกไม่ค่อยสบาย แต่เก๋กับแม่บอกว่าไม่ค่อยได้นอนเพราะนอนไม่สบาย

ตอนไปต่อเครื่องบินจากเวียนนาไปปราก เราเพิ่งเคยขึ้นเครื่องบินที่ลำเล็กขนาดนี้เป็นครั้งแรก ตอนเห็นเครื่องบินแล้วตกใจ ทำไมเล็กขนาดนี้ฟะ ขึ้นไปมีที่นั่งอยู่แค่ 14 แถว แถวละ 4 คน สรุปว่าขนาดประมาณเท่าๆ กับรถทัวร์เองนะ แต่เครื่องเล็กขนาดนี้ก็บินได้ค่อนข้างเรียบ ไม่มีกระตึกกระตักให้หวาดเสียว

เตี่ยถามเราว่าจากสนามบินเราจะไปโรงแรมยังไง เราบอกว่านั่งรถเมล์ไป เพราะอ่านจาก Lonely Planet มา เขาบอกว่าแท็กซี่จะแพงมาก เขาแนะนำว่าให้ใช้บริการ Airport Bus เข้าไปในเมืองแล้วต่อพวกรถรางรถใต้ดินจะประหยัดกว่า เตี่ยก็ทำท่าลังเลใจแบบว่าจะให้แบกกระเป๋าเดินทางขึ้นรถเมล์เนี่ยอ่ะนะ แต่พอไปถึงแล้วถามราคาเขามีรถมินิบัสไปส่งที่โรงแรม ซึ่งประหลาดมาก คือ ถ้า 1 คนราคา 180 Czech crown ถ้า 2-4 คนราคา 360 Czech crown (ถ้าไป 2 คนก็จะแพงกว่าไป 4 คน) 5-6 คนราคา 720 Czech crown เราก็เลยใช้บริการมินิบัส ไม่ต้องพาเตี่ยแม่แบกกระเป๋าขึ้นรถเมล์

The Hotel – Visitor Class 3- stars

โรงแรมที่เราพักชื่อว่า Markéta เป็นโรงแรมเล็กๆ มีแค่ 20 กว่าห้อง อยู่ค่อนไปทางชานเมือง ห่างจากสถานีเมโทร Hradčanska (อ่านว่า ฮราดชานสก้า ตัว č ในภาษาเช็คจะออกเสียง ช.ช้าง อย่างชื่อประเทศของเขาก็คือ Česká ก็อ่านว่า เชสก้า) 3 ป้ายรถเมล์ ถ้าไม่ติว่าโรงแรมนี้ต้องเดินจากป้ายรถเมล์ไกลไปหน่อย (ไม่ค่อยเหมาะกับคนขี้เกียจเดิน) อย่างอื่นๆ ก็จัดว่าโอเค เขามีอาหารเช้า เป็นพวกขนมปัง คอร์นเฟลค Cold meat ไข่ลวก ไม่ใช่ประเภทแฮม ไข่ดาว เบคอน เราก็เลยกินกันพอไม่ให้หิว แล้วไปกินหนักกันที่มื้อกลางวัน-เย็นแทน

เราได้ห้องพักเป็นห้อง Double ห้องหนึ่ง Triple ห้องหนึ่ง ห้องน้ำไม่มีอ่างอาบน้ำมีแต่ Shower แต่ก็มีน้ำอุ่นน้ำเย็นพร้อม ดูแล้วก็สะอาดสะดวกสบายดี ในห้องมีทีวี (มีช่องภาษาอังกฤษช่องเดียวคือ BBC World) มีกาต้มน้ำและชุดน้ำชากาแฟให้ด้วย (วันแรกเราไปถึงโรงแรมประมาณเก้าโมง ห้องว่างแค่ห้องเดียว โชคดีที่เป็นห้อง Triple ก็เลยกว้างหน่อย และมี 3 เตียง ตอนที่ไปถึงก็ยังเหนื่อยๆ ก็เลยได้นอนพักกันก่อนที่จะออกไปตะลุยเที่ยวกัน)

ความที่เป็นโรงแรมเล็กๆ ก็จะมีพนักงานแค่ไม่กี่คน พนักงานที่เคาน์เตอร์ Reception เป็นผู้หญิงวัยกลางคน ตอนแรกเราไม่ค่อยถูกชะตาเท่าไร เพราะท่าทางไม่ค่อย Friendly แถมสูบบุหรี่จัดอีกตะหาก แต่พอพักอยู่หลายๆ วัน ก็รู้สึกว่าเขาก็ดีเหมือนกัน อย่างเราให้เขาช่วยจอง Day Trip ให้เรา ปรากฏว่าครั้งแรกรถเขามารับเราช้าไปประมาณสิบนาที พอตอนหลังเราบอกให้เขาจองอีกทริปหนึ่ง เขารีบพูดเลยว่า คราวนี้บอกให้รถมารับเก้าโมงแน่ๆ ไม่ใช่เก้าโมงห้านาที ไม่ใช้เก้าโมงสิบนาที แล้วพอตอนเช้าเรามารอที่ลอบบี้ ก็เห็นเขาโทรศัพท์อยู่ ปรากฏว่าเขาโทรไปถามบริษัททัวร์ว่ารถออกมาหรือยัง ทั้งๆ ที่เรายังไม่ได้ถามเขาเลย เราสรุปได้ว่าเขาเป็นคนท่าทางร้ายแต่ใจดีอ่ะนะ

Money Matter – The Exchange Scam

สาธารณะรัฐเช็คใช้เงินที่เรียกว่า koruna česká (Kč) หรือ Czech Crown (อัตราแลกเปลี่ยนในเมืองไทยตอนช่วงที่เราไป ประมาณ 1.3 บาทต่อ 1 Kč) ปรากฏว่าการเราไม่ได้แลกเงินเป็น Kč ไปแต่เอาเงินดอลลาร์สหรัฐไป เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด เพราะนอกจากอัตราแลกเปลี่ยนจะไม่แตกต่างกันแล้ว เรายังต้องเสียค่าคอมมิสชันอีกตะหาก ตอนที่เราแลกเงินครั้งแรกที่สนามบินเสียคอมมิสชันไป 5% กลายเป็นว่าเราจ่ายไปประมาณ 1.4 บาทต่อ 1 Kč ครั้งต่อมาเราไปแลกข้างนอกปรากฏว่ายิ่งแล้วไปใหญ่ คือโดนโกง อืมม์ จะว่าเขาโกงก็ไม่ถูกซะทีเดียว เพราะเรียกว่าเป็นลูกล่อลูกชนของพวกบูธรับแลกเงินบวกกับความไม่รอบคอบของเราเองมากกว่า

ความจริงเราก็อ่านจาก Lonely Planet นะ เขาเตือนว่าเวลาแลกเงินให้เช็คให้ดีว่าอัตราแลกเปลี่ยนเป็นเท่าไหร่ คอมมิสชันเท่าไร เพราะบางทีเขาจะโชว์อัตราขายไว้หน้าบูธ (คือเวลาเขาขายดอลลาร์ เช่น 3.340 Kč ต่อ 1 ดอลลาร์) แต่พอเราไปแลกจริงๆ จะได้แค่ราคาซื้อ (คือเวลาเขาซื้อดอลลาร์จากเราจะให้ 3.280 Kč ต่อ 1 ดอลลาร์) หรือที่บอกว่าค่าคอมมิชชัน 0% อาจจะเป็นเฉพาะตอนเขาขายเงินต่างประเทศ (ดอลลาร์) ให้เรา แต่ตอนที่เราจะเอาดอลลาร์ไปขายเขาจะต้องเสียค่าคอมมิชชัน ฯลฯ

ตอนเราไปเดินที่ Wenceslas Square เห็นเขาขึ้นป้ายอัตราแลกเปลี่ยนดีกว่าในสนามบินแถมบอกว่า “Commission 0% All Transactions” ก็เลยเข้าไปแลก ปรากฏว่าได้เงินมาน้อยกว่าอัตราที่เขาติดป้ายไว้ประมาณ 5-600 Kč ทั้งที่ไม่มีค่าคอมมิสชันเลย พอถามพนักงานเขาก็ชี้ให้ดูป้ายที่ผนัง ปรากฏว่าเราจะได้อัตรานั้นก็ต่อเมื่อแลกเงินมากกว่า 15,000 Kč (คือประมาณ 500 ดอลลาร์) เราดันไปแลกแค่ 200 ดอลลาร์ก็เลยซวยไป เราบอกกับพนักงานว่าได้แค่นี้เราไม่แลกดีกว่า เขาก็ไม่ยอม ประมาณว่าอ้อยเข้าปากช้างแล้วเรื่องอะไรจะคืน เราก็เลยถามเขาว่าถ้างั้นแลกเพิ่มอีก 300 ดอลลาร์ให้ได้อัตราที่ดีขึ้นได้ไหม เขาก็บอกว่าไม่ได้เหมือนกัน ก็เลยยอมรับชะตากรรม (จ่ายไป 1.5 บาทต่อ 1 Kč คุ้มเชียว!!)

หลังจากประสบการณ์การแลกเงินแบบไม่รอบคอบผ่านไป เราก็เลย (เพิ่งจะมา) สังเกตได้ว่ามีหลายๆ บูธที่ใช้วิธีการแบบนี้ (คือมี 2 อัตราแลกเปลี่ยนสำหรับอัตราซื้อ แต่เวลาติดป้ายหน้าบูธจะติดแค่อัตราเดียว) ครั้งต่อๆ มาเวลาจะแลกเงิน เราก็เลยใช้วิธีถามเขาไปว่า “How many Czech crowns do I get if I exchange 100 dollars?” แทนที่จะมานั่งดูว่าอัตราแลกเปลี่ยนเท่าไร หรือ คอมมิชชันเท่าไร ทำให้ตอนที่แลกเงินครั้งหลังๆ นี้เราสามารถแลกได้ประมาณพอๆ กับแลกที่เมืองไทย

เราสรุปได้ว่าถ้ามาจากประเทศที่การแลกเงินไม่มีค่าคอมมิชชันอย่างเมืองไทย เราว่าแลกเงินเป็น Kč มาเลยก็ดีถ้าหาแลกได้ (แต่ถ้าหาแลกไม่ได้ ก็เอาดอลลาร์หรือยูโรไปแลกที่เช็คก็ได้ แตต้องระวังๆ อย่าให้โดนหลอกอย่างเรา) แต่ถ้ามาจากประเทศที่แลกเงินแล้วมีคอมมิชชัน (อย่างอังกฤษ อเมริกา เป็นต้น) มาแลกที่เช็คก็ “อาจจะ” ได้อัตราที่ดีกว่า แต่ก็ต้องมีความรอบคอบด้วย ถ้าไม่รอบคอบก็จะกลายเป็นขาดทุนไปอีก

ความจริงตามร้านใหญ่ๆ และบริษัทที่ขายพวก Day Trip หลายๆ ที่เขาก็จะรับเงินดอลลาร์ และเงินยูโรด้วย อัตราก็จะน้อยกว่าเวลาแลกที่บูธ (ด้วยความรอบคอบ) เล็กน้อย ถ้าคิดว่าไม่อยากจะไปเดินเช็คอัตราการแลกเปลี่ยน จะจ่ายเป็นเงินดอลลาร์หรือยูโรก็ได้ แต่ที่มีการเตือนกันมากๆ ก็คือ "อย่าแลกเงินกับคนที่มาเดินถามตามถนน (ตลาดมืด) เด็ดขาด" ไม่ว่าเขาจะให้อัตราแลกเปลี่ยนเท่าไหร่ก็ตาม เราเจอมีคนมาเสนอให้ 4,000 Kč ต่อ 100 ดอลลาร์ แต่ก็ไม่ได้สนใจ นับเป็นโชคดีที่ไม่งกจนหน้ามืด เพราะมารู้ทีหลังว่าพวกนั้นเป็นพวกนักต้ม (ของจริง) คือ จะเอาแบ็งค์เก่าที่ไม่ใช้แล้วของประเทศในยุโรปตะวันออกอย่างฮังการีมาหลอก นักท่องเที่ยวไม่ทันดู ก็รับมาพอจะเอาไปจ่ายตามร้านค้าก็ถึงได้รู้ว่าโดนปล้นกลางวันแสกๆ

อิอิ... ผ่านมา 2 วันแล้ว ยังไม่ได้พาเที่ยวเลย แต่ไหนๆ หลวมตัวมาอ่านกันแล้วก็คงต้องติดตามกันต่อไป... ต่อพรุ่งนี้ (และวันต่อๆ ไป) จ้า... ^____^