Indian Part 3: เกลียดอะไรก็ได้อย่างนั้น
คนอยู่คอนโดห้องติดกับเราเป็นแขก มีกันเป็นครอบครัวพ่อแม่ลูกเลยหละ เราก็พยายามจะไม่สนใจเขามาก แต่ ใครจะว่าเป็นโรคจิตก็เถอะ เพราะเรารู้สึกว่าได้กลิ่นแขกรอดออกมาตามช่องว่างใต้ประตู... ทุกครั้งที่เอาขยะไปทิ้งต้องเดินผ่านห้องเขา ก็กลั้นหายใจทุกครั้ง

วันก่อนกลับมาบ้าน ประตูลิฟท์เปิดออกมาเราก็ผงะเสียตั้งแต่ยังไม่ก้าวเท้าออกจากลิฟท์ เห็นควันจางๆ อยู่ในโถงทางเดินพร้อมกลิ่นฉุนฉกาจ ออกจากลิฟท์ปุ๊บเราก็หันไปทางห้องแขกทันที เห็นประตูเข้าเปิดกว้างเชียว (เขาคงทำกับข้าวแล้วมีควันเยอะ ก็เลยเปิดประตูให้มันระบายออกมาในโถงทางเดิน) ในจังหวะนั้นเองแขกผู้ชายโผล่มาจากห้องมามองๆ (เขาคงได้ยินเสียงกริ่งลิฟท์ ที่มันจะดังทุกครั้งที่จอดแต่ละชั้น) เราก็เลยทำหน้ามึนใส่เขาไป พยายามจะทำหน้าให้มันพูดออกมาว่า ทีหลังทำกับข้าวก็ปิดประตูสิเฟ้ย ชาวบ้านที่เกลียดอย่างฉันเหม็นและไม่ชอบ รู้ไหม รู้ไหม... แต่เขาคงไม่รู้หรอก เพราะเขาก็ผลุบกลับเข้าไปในห้อง แต่ยังเปิดทิ้งประตูกว้างไว้เหมือนเดิม เราก็เลยต้องรีบมาไขประตูเข้าห้อง (จะขาดใจตาย เพราะกลั้นหายใจอยู่)

เขาว่าใครเกลียดอะไรจะได้อย่างนั้น หลายๆ คนก็บอกว่า แบบนี้ท่าทางเราคงต้องได้แต่งงานกับแขกแน่ๆ เลย เราเคยตอบไปว่า ถ้าเราแต่งงานกับแขกจริงๆ ได้ก็ต่อเมื่อ เราตกหลุมรักแขกคนนั้นมากๆ จนไม่หายใจ และหรือไม่แขกนั้นก็ต้องเป็นมหาเศรษฐีระดับเจ้าของบ่อน้ำมัน ถ้าเขายกบ่อน้ำมันให้เราซักบ่อสองบ่อ เราคงจะพอทำใจกับการต้องทนกลิ่นแขกและยอมแต่งงานกับเขา (รวมทั้งยอมให้เพื่อนๆ เยาะเย้ยถากถาง) ได้ (หรือว่าต้องซัก 5 บ่อ???) สรุปว่าในความรู้สึกของเรา ไอ้คำว่า เกลียดอะไรจะได้อย่างนั้น มันไม่เป็นความจริงหรอก ถ้าเกลียดอะไรจริงๆ เพราะเราจะทนไม่ได้ แต่ถ้าเมื่อไหร่ทนได้ ก็แสดงว่าไม่เกลียดจริง หรือความเกลียดลดลง ความชอบความเกลียดเป็นเรื่องที่เปลี่ยนแปลงกันได้อ่ะนะ

แต่ปรากฏว่าหลังจากมีเพื่อนบ้านเป็นแขกนี่ เราเริ่มเข้าใจความหมายของคำพูดนี้ในมุมมองใหม่ เกลียดอะไรมักจะได้อย่างนั้น นี่อาจจะจริง เพราะทุกวันนี้วันดีคืนดีเราก็ได้กลิ่นที่ลอดออกมาทางช่องใต้ประตูเวลาไปทิ้งขยะ บางทีก็กลิ่นก็โฉ่ออกมาตอนเขาทำกับข้าว บางทีก็ลอยมาเวลาที่เราไปยืนดูวิวหรือตากผ้าที่ระเบียง บางทีได้กลิ่นที่ค้างอยู่ในลิฟท์ (เราเคยไม่ยอมขึ้นลิฟท์ แกล้งเสไปดูจดหมายที่ตู้ เพราะเห็นว่ามีแขกรอขึ้นลิฟท์อยู่) แถมไปว่ายน้ำก็เจอเด็กๆ แขกว่ายไปว่ายมาอีก ชักรู้สึกว่านี่ถ้ามีแฟนเป็นแขกไปเสียเลยอาจจะไม่แย่เท่านี้ เพราะอย่างน้อยก็มีแฟน แต่นี่แฟนก็ไม่มี แต่ต้องมาทนกับกลิ่นแขกอยู่ตลอดเวลา เฮ้อ... เวรจริงๆ

ลป. เมื่อ 1 ปีกับ 1 อาทิตย์ที่แล้ว เราเขียนบ่นเรื่องแขกไว้ 2 ตอนแหนะ ใครยังไม่รู้ว่าเรา obsess กับเรื่องแขกมากแค่ไหนย้อนกลับไปอ่านได้ >> ตอนแรก และ >> ตอนที่ 2 :P