เราก็แนะนำว่าทำไมไม่เอาโปรแกรม VoloView ไปลงล่ะ มันเป็นโปรแกรมของ AutoDesk (บริษัทเจ้าของ AutoCAD) ที่ทำขึ้นมาสำหรับใช้เปิด AutoCAD Drawing ได้ แต่แก้ไขไม่ได้ เป็นประมาณ AutoCAD Viewer อ่ะนะ เขาก็พูดจาสับสนฟังไม่รู้เรื่อง คือประมาณจะบอกว่า เขาต้องเอาไปใช้เปิด Drawing ที่มาจากอีกโปรแกรมหนึ่ง ซึ่งปกติ Drawing พวกนั้นจะใช้ CAD เปิดได้ แต่ใช้ VoloView เปิดไม่ได้ เราฟังแล้วยังไม่ค่อยเข้าใจ แต่เขาก็ไม่ยอมจะอธิบายให้ฟังเพิ่ม กลับรีบถามต่อว่า แล้วตกลงเรามี License ที่จะลง CAD 14 ได้ไหม เราบอกเขาไปว่าบริษัทมีสิทธิ์ที่จะลง CAD 14 เหมือนกันเพราะ License ของ CAD 2000 มันจะครอบคลุมถอยหลังไปถึง CAD 14 ด้วย แต่จะลงให้กับเฉพาะเครื่องรุ่นที่เก่าเกินกว่าจะลง CAD 2000 ได้เท่านั้น (ซึ่งถ้าให้เรานึกดู ตอนนี้ทั้งบริษัทอาจจะมีซัก 1-2 เครื่อง แต่คนที่จำเป็นต้องใช้ AutoCAD อย่าง Drafter หรือ Designer เขาก็มีเครื่องรุ่นใหม่ๆ กันหมด ก็ลง CAD 2000 กันอยู่แล้วไม่มีใครจำเป็นต้องลง CAD 14)

เขายังถามต่ออีกว่า แล้วตกลงจะลงให้เขาได้หรือเปล่า เราก็บอกว่า “ลงให้ไม่ได้” เพราะตอนนี้ License เต็มอยู่ มีคนใช้กันหมดแล้ว เขาก็บอกว่า เขาก็เห็นว่า License ของ CAD 2000 มันเต็ม ก็เลยจะขอให้ลง CAD 14 ให้แทน เราก็บอกว่า ก็ License ของ CAD 2000 ตอนนี้ ก็เป็น License ที่อัพเกรดมาจาก CAD 14 เพราะฉะนั้นจำนวน License มันก็มีเท่าที่มี และตอนนี้มันเต็มอยู่ ถ้าเขามีความจำเป็นต้องใช้ก็ต้องซื้อเพิ่มหรือย้ายจากเครื่องอื่นไป ซึ่งเขาต้องไป Request กับ Supervisor เขา ไม่ใช่มา Request เอากับเรา (เพราะเราไม่ใช่คนที่จะ Approve ให้ซื้อหรือย้าย Software ได้) ก็ปรากฏว่าเขาก็ยังทำท่าลังเลใจ แล้วก็ถามย้ำอีกว่าตกลงลงให้เขาไม่ได้ใช่ไหม เราก็ลอบถอนหายใจแล้วตอบไปว่า “ไม่ได้” ในใจคิดว่า “Which part of “NO” you do not understand?”

หลังๆ นี้บริษัทรับคนใหม่ๆ เข้ามาทำงานหลายคน เรารู้สึกว่าบางคนยังไม่ค่อยเข้าใจวัฒนธรรมในการทำงานของบริษัทเราซักเท่าไหร่ คือ เราเคยชินกับการที่เรามีอะไรเราก็จะพูดกับนายของเรา เราอยากได้อะไรไม่ต้องไปไฟต์เอง สั่งนายให้ไปไฟต์ให้ (นายเราเขาก็ทำตัวเป็นลูกน้อง... เอ้ย... นายที่ดี คือจะไฟต์ให้ตลอดเหมือนกัน แต่อันนี้ก็ต้องใช้เทคนิคเฉพาะตัวบวกกับเวรกรรมแต่ชาติปางก่อนด้วยเหมือนกัน บางคนไม่รู้เทคนิคของการสร้าง Bargaining Power หรือชาติที่แล้วทำบุญมาน้อยนายไม่รัก อันนี้ก็ซวยหน่อย) เพราะฉะนั้นถ้าเราเป็นวิศวกรโยธาคนที่เล่ามาเนี่ย คนแรกที่เราจะเดินไปหาคือ หัวหน้าเรา บอกเขาไปเลยว่า ฉันอยากได้ AutoCAD 14 เพราะเหตุผลนี้ 1, 2, 3, 4 ถ้าเหตุผลที่ให้ไปมัน Justify ได้ หัวหน้าเขาจะต้องไปหาลู่ทางเอา AutoCAD 14 มาลงให้ลูกน้องเขาให้ได้ ซึ่งก็จะเป็นว่านายเขามาคุยกับเราหรือกับนายเรา แล้วก็หาข้อสรุปออกมา (แต่เฉพาะกรณีนี้ ไม่ว่าเขาจะคุยกับนายเขา หรือคุยกับเราอย่างที่ออกมา ผลก็คงเหมือนกัน เพราะฟังจากเหตุผลที่เขาบอกเรา เรารู้สึกว่ามัน Justify ไม่ได้ คือ จะแค่ดู Drawing บ้างเป็นครั้งคราว เพราะไม่อยากจะรอให้ Drafter ว่างมา Plot ให้ มันไม่คุ้มกับการจ่ายเงินแสนอ่ะนะ)

เรารู้สึกว่าพวกที่เข้ามาใหม่ๆ เขามองไม่ออกว่าคนแต่ละคนในแต่ละตำเหน่งมีสิทธิและอำนาจแค่ไหนอย่างไร ใครมีหน้าที่อะไร อย่างเหตุการณ์ที่เล่ามานี่ บางทีเขาอาจจะนึกว่า เนี่ยมาแจ้งไอทีโคฯ (ย่อมาจาก ไอทีโคกระบือ ไม่ใช่ ไอทีโคออดิเนอเตอร์) ว่าให้ลงโปรแกรมให้ แล้วมันไม่ยอมลงให้ สรุปว่าไอทีโคฯ เป็นคนกำหนดว่าใครควรจะได้ใช้โปรแกรมละสิ แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่ ที่เราปฏิเสธเขาไปเพราะว่ามันฝ่าฝืนนโยบายบริษัทในเรื่องลิขสิทธิ์ ถ้าเขาสามารถจะบังคับให้หัวหน้าเขายอม Approve ว่าให้ลงโปรแกรมให้เขา โดยเอามาจากเครื่องของคนอื่น หรือ โดยการซื้อ License เพิ่ม เราก็ปฏิเสธเขาไม่ได้

เดี๋ยวนี้พี่ๆ ที่นั่งข้างๆ เราเขาจะมีคำพูดติดปากเวลาคนถามเรื่องคอมพิวเตอร์ต่างๆ เช่นว่า ทำไมโปรแกรมนี้รันไม่ได้ เมื่อไหร่จะได้โปรแกรมนี้มาใช้ จะเอาไปลงเครื่องไหนบ้าง ฯลฯ เขาจะตอบว่า “ไปถามไอทีโคฯ สิ” พี่ๆ พวกนี้เขาทำงานกับเรามานาน จนรู้กันว่า "นี่คือมุข" แต่ดูท่าทางคนมาใหม่ๆ เขาจะไม่รู้ว่ามันคือมุข ก็คิดว่าต้องมาหาเราจริงๆ มีถึงขนาดว่า มาขอว่าอยากได้โปรแกรมให้ช่วยหา License ให้ด้วย แหม... ถ้าเราจะมีอำนาจสั่งโน่นนี่ได้อย่างงั้นก็ดีสิ แต่เราก็ได้แต่ตอบไปว่า เรารู้แต่ นโยบาย (ทุกอย่างต้องให้ Supervisor เขากับ Supervisor เรา Approve) กับ สถานะ (โปรแกรมมีกี่โปรแกรม ใครใช้อยู่ ฯลฯ) เพราะฉะนั้นอยากได้อะไรให้ไปคุยกับ Supervisor กันเอง ถ้าเขาโอเค เราก็ ทำให้ได้ทุกอย่าง ไม่มีปัญหาอยู่แล้น