Mighty Sale...
อาทิตย์ก่อนโน้นที่เซ็นทรัลมีลดราคาตามธรรมเนียมอีกแล้ว คราวนี้เรียกว่า Mighty Sale หรือไงเนี่ยหละ เราไปเดินๆ ดูแล้วก็เจอว่าแผนกรองเท้าก็ลดราคา ก็เลยซื้อรองเท้าแตะที่ทำด้วยหนังมาคู่หนึ่ง เคยหมายตาไว้พักหนึ่งแล้ว แต่ก็รอจังหวะให้ลดราคาเสียก่อน (ประมาณว่าเขาจะลดราคาทุกสิ้นเดือน ต้อนรับเงินเดือนออกอ่ะนะ) เราดีใจแทบแย่ เพราะได้ลดถึง 15% ราคาเดิม 900 กว่าบาท ลดไปตั้งร้อยกว่าบาท ยังไปคุยกับพี่ปุ๊กเลยว่า “เซ็นทรัลลดราคานิจได้รองเท้ามาคู่หนึ่งด้วยหละ” พี่ปุ๊กถามว่ารองเท้าอะไร ก็บอกว่า “รองเท้าแตะของ Hush Puppies” กลับมาบ้านก็เอามาลองใส่เดิน โห... ุนุ่มสบายดีจัง เอาไปจอดไว้ใกล้ประตูดีกว่า รอให้ถึงวันหยุดก็จะได้ใส่แล้ว เห่อขนาดเลยอ่ะนะ หุหุหุหุ

ก่อนหน้าที่เราจะซื้อรองเท้า เซ็นทรัลเคยส่งคูปองลดราคาสำหรับสมาชิกบัตรเครดิตเซ็นทรัลมาให้เล่มหนึ่ง มีลดราคาตั้งแต่ 15-25% แล้วแต่ประเภทสินค้าและยี่ห้อ เก๋ก็มาถามเราว่าเราจะใช้คูปองนี้หรือเปล่า เพราะถ้าไม่ใช้เก๋จะเอาไปใช้ เราก็บอกไปว่า จะใช้ของยี่ห้ออะไรก็ฉีกไปแล้วกัน เราดูผ่านๆ แล้วไม่ได้มีอะไรที่อยากจะซื้ออยู่ในใจ เราตอบแล้วก็ไม่ได้ไปสนใจจะเปิดดูคูปองนี้อีกเลย แต่พอวันที่ซื้อรองเท้าแตะเสร็จ เราก็ดันเอาคูปองนี้มาเปิดดูอีกที เปิดๆ ไปก็เจอคูปอง Hush Puppies ลด 25% !!! นี่ถ้าเราเอาคูปองนี้ไปใช้ เราก็จะได้ลดราคาเพิ่มอีกตั้งเกือบ 100 บาท อะจ๊ากกกกกก ดูหนังได้ตั้งรอบหนึ่ง โหยยยย เสียดายๆๆๆๆๆ

เราพยายามคิดใหญ่เลยว่าจะทำยังไงให้สามารถได้ลดราคา 25% ไม่ใช่ 15% อย่างที่เพิ่งซื้อมา นึกอยากให้เป็นตอนอยู่อเมริกาหรืออังกฤษขึ้นมาทันที เพราะถ้าเป็นที่โน่น เราก็แค่เอาคูปองไปให้ที่ร้าน เขาก็แทบจะคืนส่วนต่างให้อยู่แล้ว (อาจจะต้องให้เรากรอกใบอะไรต่ออะไรเล็กน้อย หรือเขาต้องคีย์โน่นคีย์นี่ลงไปในเครื่องของเขาเพื่อตัดเงินเข้าออกบัญชีของร้าน) หรือไม่ก็สามารถจะเอารองเท้าคู่เดิมไปคืน แล้วซื้อคู่ใหม่ในพร้อมคูปองในราคาลด 25% แต่ที่เมืองไทยมันไม่ใช่ ซื้อแล้วคืนไม่ได้ แค่จะขอเปลี่ยนยังยากเลย

ฝรั่งคนหนึ่งเคยพูดว่า ซื้อของเมืองไทยนี่ต้องตัดสินใจให้แน่ เพราะถ้าจ่ายเงินแล้ว It’s all your คือหมายถึงว่า เป็นของเราเลย ขายขาด ห้ามเปลี่ยนห้ามคืน คนที่ไม่เคยเจอการซื้อของแล้วเปลี่ยน แล้วคืนได้จนกว่าจะพอใจอย่างที่เมืองนอกก็คงชินๆ ไม่รู้สึกว่าเป็นปัญหา แต่เราเคยเจอแบบนั้นแล้วก็รู้สึกว่า เมื่อไหร่ร้านค้าเมืองไทยจะเป็นแบบนั้นซะที

หลังจากเราคิดสะระตะไตร่ตรองอยู่พักหนึ่งแล้ว ก็คิดว่าคงไม่สามารถจะได้ส่วนลดเพิ่มอีกเกือบร้อยบาทนี้แน่ๆ ในที่สุดก็คิดว่าปลงดีกว่า มันคงเป็นชะตาฟ้าลิขิตที่เราจะได้ซื้อของในราคาแพงกว่าที่ควรจะเป็น (ว่าไปโน่นเลย) เพราะคูปองเล่มนี้มันก็อยู่ที่บ้านเรามาตั้งนานสองนาน เราก็ไม่เอามาเปิดดู พอวันที่ซื้อรองเท้าไปแล้วดัน (เฉือก) ไปเอามาเปิดดู ก็เลยต้องเจ็บใจแบบนี้ หลังจากปลงได้แล้วก็เลยหันมาเห่อกับรองเท้าใหม่... เดินไปเอามันมาลองใส่เดินในบ้านอีกรอบหนึ่งดีกว่า อิอิอิ ก่อนใส่ก็ก้มลงไปมองชื่นชมของใหม่อีกรอบหนึ่ง เอ๊ะ... รองเท้าเรายี่ห้อมัน Dortmüend นี่หว่า อ้าว... แล้วกัน หลงคิดว่าเป็น Hush Puppies มาตลอดเลยอ่ะ :P