Oil Price
ช่วงนี้สังเกตว่ารถติดค่อนข้างมาก มีบางวันที่ติดโหดๆ เป็นช่วงโมงๆ อย่างวันศุกร์วาเลนไทน์หรือวันศุกร์สิ้นเดือน แต่โดยปกติรถตามท้องถนนก็ดูจะหนาตาเป็นพิเศษ รถที่เพิ่มขึ้นคงจะมาจากรถใหม่ๆ เพราะตอนนี้รถแทบทุกยี่ห้อขายดี เราไม่คิดว่าเป็นเพราะเศรษฐกิจดีขึ้น แต่เป็นเพราะดอกเบี้ยถูก (ฝากประจำ ๓ เดือนเหลือแค่ ๑.๗๕% แล้ว หักภาษีแล้วแทบไม่พออัตราเงินเฟ้อ แบบนี้ยิ่งฝากนานมูลค่าของเงินยิ่งหดลง) ทำให้คนที่มีเงินไม่อยากจะออมเงิน และคนที่ไม่มีเงินต้องกู้ก็จะอยากกู้เพราะดอกเบี้ยเงินผ่อนก็ต่ำไปด้วย เราก็เลยเห็นรถใหม่ๆออกมาวิ่งเยอะแยะ

ตอนนี้ราคาน้ำมันหน้าปั๊ม ๑๗ บาท แต่ราคาจริงปาเข้าไป ๑๙ บาทกว่าๆ เพราะตอนนี้รัฐบาลเขาเข้ามาแทรกแซงราคาน้ำมันโดยต้องเอาเงินมา Subsidise ประมาณวันละ ๑๐๐ กว่าล้านบาท เขา Subsidise ไปแล้วเดือนกว่าๆ หมดเงินไป ๓ พันกว่าล้าน และบอกว่าจะทำแบบนี้ต่อไปจนกว่าเงินกองทุนที่ตั้งไว้ ๘ พันล้านบาทจะหมด แล้วก็จะหาเงินกองทุนอื่นมาจ่ายชดเชยต่อไป เขาว่าจะจ่ายชดเชยไปเรื่อยๆ

เราคิดว่ารัฐบาลน่าจะปล่อยให้ราคาน้ำมันเป็นไปตามความจริง พอน้ำมันแพงขนาดลิตรละ ๒๐ บาท คนคงใช้รถกันน้อยลง คงต้องประหยัดและใช้รถเท่าที่จำเป็น แต่แม่บอกว่า ถ้าปล่อยให้ราคาน้ำมันขึ้นสูงไป พวกของกินของใช้ก็จะขึ้นราคาตาม แล้วชาวบ้านจะเดือดร้อนมาก เพราะราคาสินค้าอื่นๆ ไม่เหมือนน้ำมัน ถ้าเขาขึ้นราคาไปแล้ว พอน้ำมันลดราคาเขาก็ไม่ยอมลดราคาสินค้าลงมา มันจะยิ่งแย่กันไปใหญ่

ถ้าเป็นแบบนี้เราว่าก็น่าจะต้องมีมาตรการอะไรออกมาให้คนทั่วๆ ไปรู้สึกว่าต้องประหยัดน้ำมัน เพราะตอนนี้เท่าที่เรารู้สึกคนทั่วๆ ไปเขาไม่ได้รู้สึกว่าน้ำมันมีราคาแพงต้องประหยัดหรืออะไรทั้งสิ้น น้ำมันแค่แพงกว่าช่วงที่ผ่านๆ มาประมาณ ๑-๒ บาท สงครามจะเกิดหรือไม่ก็ไม่ได้เป็นข่าวที่ฮ็อตฮิตติดหูต้องเอามาคุยกัน ก็ไม่ได้คิดว่าจะประหยัดน้ำมันหรือกักตุนข้าวของเตรียมการเผื่อขาดแคลน มองในแง่ดีก็คือพวกเราไม่ตื่นตระหนกตกใจ แต่มองในอีกแง่หนึ่งก็กลายเป็นว่าพวกเราไม่รับรู้สถานการณ์จริงเลย