Adaptation 2
เมื่อวันก่อนค้างเอาไว้ว่าจะมาเล่าเรื่องจากหนัง Adaptation ต่อเกี่ยวกับความจริงความไม่จริงในหนัง ตอนที่เราอ่านเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ทางอินเตอร์เน็ต ก็พาให้นึกไปถึงเรื่องสั้นของชุด “ำ” (อ่านว่า “อำ”) วินทร์ เรียววารินทร์ ที่ลงในมติชนสุดสัปดาห์มาหลายสัปดาห์แล้ว ทุกตอนเขาจะเล่าเรื่องที่เป็นเกร็ดความรู้อ่านแล้วรู้สึกว่าเหลือเชื่อ แล้วตอนจบก็จะเฉลยว่าเรื่องที่เขาเขียน ตรงไหนบ้างที่ “ ำ” ตรงไหน “ไม่ ำ” ตอนแรกๆ ที่เขาเขียนคนอ่านยังไม่รับมุขเท่าไหร่ เลยมีคนแสดงความไม่เห็นด้วยกับเรื่องวินทร์อย่างเอาจริงเอาจัง

สำหรับเรื่อง Adaptation นี่น่าจะจัดเข้าชุด “ำ” ได้เหมือนกัน ที่เราเขียนไปเมื่อตอนที่แล้วว่าเรื่องในหนังคงจะไม่จริงทั้งหมดยกเว้นก็แต่ชื่อของฝาแฝด Kaufman กับที่ว่า Charlie Kaufman เป็นคนเขียนสคริปต์ Being John Malkovich นั้นปรากฏว่าไม่ถูกต้อง มาลองฟังเฉลยอำกันดีกว่า

Charlie Kaufman มีตัวตนจริง เขียนสคริปต์ Being John Malkovich จริง แต่น้องชายฝาแฝดของเขา คือ Donald Kaufman เป็นเพียงตัวละครที่สมมติขึ้นมา (Fictional Character) แต่เขาก็อำจริงๆ จังๆ ขนาดที่ให้เครดิต Donald Kaufman เป็นผู้เขียนบทร่วมกับ Charlie Kaufman หนังเรื่อง Adaptation ได้เข้าชิงออสการ์ในสาขาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ทำให้ Donald Kaufman เป็นตัวละครสมมติคน(ตัว)แรกที่ได้เข้าชิงออสการ์ ซึ่งออสการ์ก็ออกมาประกาศก่อนการประกาศรางวัลแล้วว่า ถ้าหากว่า Adaptation ชนะรางวัลในสาขานี้ Charlie กับ Donald จะต้องแชร์รางวัลกัน (หมายถึงว่าเขาจะแจกตัวตุ๊กตาออสการ์สีทองให้เพียงตัวเดียว ในขณะที่ปกติถ้าเป็นคนจริงๆ ได้เข้าชิงรางวัลร่วมกัน เขาจะแจกตุ๊กตารางวัลให้แต่ละคน) แต่ว่าสองคนนี้ก็พลาดรางวัลออสการ์ไป

Susan Orlean มีตัวตนจริงและเป็นคนเขียนหนังสือเรื่อง The Orchid Thief จริง John Laroche โจรขโมยกล้วยไม้ที่ถูกเล่าถึงในหนังสือก็มีตัวตนจริงๆ The Orchid Thief เป็น Bestseller และถูกซื้อลิขสิทธิ์มาทำเป็นหนังจริงๆ บริษัทผู้สร้างหนังจ้าง Charlie Kaufman ให้ดัดแปลงหนังสือเป็นบทหนังจริงๆ และ Charlie ก็มีปัญหาติดขัดในการดัดแปลงหนังสือเรื่องนี้จริงๆ เขารู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะทำหนังจากหนังสือเรื่องนี้ ดังนั้นแทนที่เขาจะดัดแปลงบทในแบบ Conventional Way เขาก็เลยเขียนเรื่อง Adaptation โดยจินตนาการเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับ Susan Orlean และ John Laroche ขึ้นมามากมาย

ตอนที่ Charlie เอาบทดัดแปลงที่เขาเขียนเสร็จไปให้บริษัทหนัง บริษัทหนังรู้สึกว่ามันเจ๋งมาก แต่หลังจากที่ Susan ได้อ่านบท เธอบอกว่าจะเอาเรื่องนี้ไปทำเป็นหนังก็ได้ แต่ว่าต้องเปลี่ยนชื่อของเธอออกไป เธอบอกว่ามันไม่ใช่เฉพาะเรื่องที่ว่า Susan ในหนังเป็นผู้หญิงที่ไม่มีความสุขกับชีวิตครอบครัว เสพย์ยาเสพย์ติด มีรูปโป๊ลงอินเตอร์เน็ต และนอนกับตัวละครในหนังสือของตัวเองเท่านั้น (ทั้งหมดนี้เป็นจินตนาการของ Charlie) แต่เธอรู้สึกว่าชีวิตของตัวเองจะต้องเปลี่ยนไปหลังจากชื่อของเธอไปปรากฏในหนัง ซึ่งเธอไม่อยากให้ชีวิตของตัวเองเปลี่ยนไป เพราะเธอมีความสุขกับชีวิตของตัวเองดีอยู่แล้ว

บริษัทหนังบอกว่า ถ้าจะทำ Adaptation ตามบทที่ Charlie เขียน ตัวละครทุกตัวจะต้องใช้ชื่อจริงหรือไม่ก็ไม่ต้องทำ หลังจากเกลี้ยกล่อมอยู่นานพอดู (พวกเขาบอก Susan ว่าขนาด Charlie ยังยอมเป็นนักเขียนขี้แพ้ที่ Masturbate ตลอดเรื่องด้วยชื่อตัวเอง เขาไม่เห็นขอร้องให้เปลี่ยนตัวละครของเขาเป็นชื่ออื่นเลย) Susan ก็ยอมให้ทำหนังในแบบที่มันเป็น

John Laroche โจรขโมยกล้วยไม้ที่ไม่มีฟันหน้าตัวจริงได้ดูหนังแล้วก็บอกว่าสมัยก่อนเขาเป็นอย่างที่เห็นในหนังนั่นแหละ แต่ตอนนี้เขาไม่เป็นแบบนั้นแล้วเป็นคนธรรมดาๆ เป็นพ่อของลูกสาวคนหนึ่ง คนที่เล่นเป็น John Laroche ชื่อ Chris Cooper เขาไม่ได้เอาฟันหน้าออกไปจริงๆ หรอกนะใช้ใส่ฟันปลอม (Prosthesis หรือจะเรียกว่า “ฟันหลอปลอม” ดี) Chrisได้รางวัลออสการ์จากบท John Laroche นี่เสียด้วย (เพิ่งนึกได้ว่านอกจากเล่นเป็นพ่อใน October Sky แล้ว เขายังเล่นเป็นอดีตทหารปลดประจำการที่แอบคลั่งนาซีและเป็นโฮโมเซ็กชวลในเรื่อง American Beauty อีกด้วย)

หนังอย่าง Adaptation นี่เราคิดว่าไม่มีทางฮิตตูมตาม เพราะมันเป็นอย่างที่ Charlie บ่นในเรื่องนั่นแหละ คือมันดำเนินไปเรื่อยๆ ไม่ค่อยมีความเป็น Drama ไม่มีเหตุการณ์ตื่นเต้น เป็นเหมือนชีวิตคนธรรมดาๆ แต่สำหรับเราคิดว่าความสนุกของหนังมันอยู่ตรงที่มีอะไรให้คิดให้ติดตามหลังจากที่หนังจบแล้ว การได้อ่านเบื้องหน้าเบื้องหลังของหนังก็สนุกไม่แพ้เนื้อหาของหนัง ทำให้เข้าใจมุขที่เขาตั้งใจ “ อำ” มากขึ้น แต่ก็จะมีข้อด้อยคล้ายๆ กับข้อเขียนชุด “ ำ” ของวินทร์นั่นแหละ คือคนดูบางส่วนก็อาจจะไม่รับมุข จนรู้สึกว่าหนังก็กลายเป็นเรื่องเรียบๆ เรื่อยๆ น่าเบื่อดูไม่สนุกไปในที่สุด