Old Stories
อัพเดทเรื่องราวที่ผ่านมา...

เทพธิดาพยากรณ์ – อาทิตย์ก่อนดูรายการเจาะใจ เขาบอกว่าแฟนฉันทำรายได้ไปร้อยยี่สิบห้าล้านแล้ว ให้มันรู้เสียมั่งว่าเราน่ะชัวร์ไม่ใช่มั่วนิ่มฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ

ยาสีฟันสลับสี – หลังจากบ่นความสงสัยไปวันก่อน เราก็ต้องทำงานอยู่จนค่ำ ระหว่างที่เบื่อนั่งมองพระจันทร์ ก็เลยเสิร์ชอินเตอร์เน็ต ได้คำอธิบายมาว่า (อืมม์ นี่เป็นการทดสอบความสามารถในการเขียนของเราว่า จะสามารถทำให้คนอ่านวาดภาพตามได้สำเร็จหรือไม่) การทำให้ยาสีฟันออกมาเป็นแถบๆ สลับสี เขาจะต้องทำหลอดยาสีฟันเป็นพิเศษ นั่นคือที่ปากทางออกของหลอดยาสีฟันจะมีหลอดเล็กๆ ติดไว้ด้านใน หลอดนี้จะยาวลึกเข้าไปในหลอดประมาณ 1-2 นิ้ว และที่หลอดเล็กๆ นี้ก็จะเจาะรูไว้รอบๆ ไว้ใกล้ๆ กับปากทางออกของหลอดยาสีฟัน

สมมติว่าเราจะทำยาสีฟันสีแดงสลับเขียว เราก็เอายาสีฟันสีเขียวใส่เข้าไปก่อน (อืมม์ จะใส่สีแดงก่อนก็ได้นะ) โดยจะต้องใส่ไม่ให้เกินความยาวหลอดเล็กๆ ที่ติดไว้ แล้วก็เอายาสีฟันอีกสีแดงใส่เข้าไปทีหลัง (หรือยาสีฟันสีเขียว ถ้าตะกี้ใส่สีแดงเข้าไปก่อน 555)

ทีนี้นึกภาพตามว่าถ้าหลอดยาสีฟันเป็นหลอดใสๆ เราเอาหลอดยาสีฟันด้านปากหลอดทิ่มลง เราก็จะเห็นยาสีฟันแบ่งเป็น 2 ชั้น สีเขียวด้านล่าง สีแดงด้านบน เวลาบีบยาสีฟันแรงบีบจะทำให้ยาสีฟันสีแดงไหลเข้าไปในหลอดเล็กๆ ในขณะเดียวกันยาสีฟันสีเขียวก็จะไหลผ่านรูเล็กๆ ที่เจาะไว้รอบๆ หลอด ยาสีฟันสองสีไหลออกมาด้วยความเร็วพร้อมๆ กัน ก็กลายเป็นยาสีฟันสลับสีได้อย่างน่าประหลาดใจ

อธิบายเสร็จแล้วรู้สึกว่าไม่ค่อยเวิร์ค ใครอ่านแล้วนึกภาพตามไม่ออกจะไปอ่านเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษพร้อมภาพประกอบก็ไปที่นี่ได้เลย.. ส่วนคนที่สงสัยว่าเราหาเรื่องนี้เจอได้ไง ก็ไม่ยากอะไร ใช้เสิร์ชเอนจิ้นที่คุณพอใจ แล้วใส่คำว่า Striped Toothpaste เข้าไปก็จะมีรายการมาให้อ่านยาวยืดเลย...

Just Say No

ช่วงที่ผ่านมาเราพยายามหลีกเลี่ยงไม่สนทนากับทอมเป็นการส่วนตัวถ้าไม่จำเป็น เพราะเรามีภาระติดค้างที่ไม่ยอมทำให้เสร็จ คือต้องวางแผนเกี่ยวกับ Budget กับ Resource ของคนที่จะมาทำงานให้โปรเจ็คต์เรา ที่ผ่านมาเราทำงานวางแผนน้อยมากๆ ส่วนใหญ่ลงไปคลุก Technical ซะเยอะ จนสรุปได้ว่าเราเป็น Lead Engineer ของโปรเจ็คต์โดยที่ไม่ได้ Lead เลย ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับคนอื่นๆ ตลอดเวลา (ซึ่งถือว่า สอบตก ในฐานะ Supervisor) ซึ่งถ้าถามเหตุผลว่าทำไม ก็คงต้องบอกว่ามี 2 ประเด็น หนึ่งคือ ลูกน้องมันทำงานไม่ได้อย่างใจเรา กับสอง เราไม่ได้อยากเป็นหัวหน้า Lead ใคร หรือทำงานบริหาร เราทำไม่เป็นและไม่อยากทำ (โว้ย)

วันนี้เราไปเอากระดาษที่สั่งพิมพ์ เครื่องพิมพ์อยู่หน้าห้องทอม เราเห็นเขาทำท่าจะเรียกเราแวบๆ แต่รีบหลบตาซะก่อน ปรากฏว่าไม่สำเร็จ เขาตะโกนออกมาว่า คุณนิจวรรณ มีเวลาซักสองสามนาทีไหม เราก็เลยจำต้องเดินเข้าห้องเขาไป เขาบอกว่าปิดประตูด้วย อ้าว... ตาย 5 ท่าทางไม่ใช่สองสามนาทีซะละมั้ง

ทอมบอกว่า ปีหน้าเขาจะเปลี่ยนการจัดการในแผนกเครื่องกลเสียใหม่ โดยจะยกพี่ธ. ซึ่งเดิมเป็นหัวหน้าของวิศวกรขึ้นไปดูการทำงานของทั้งหมดของเครื่องกล (วิศวกร ดีไซเนอร์ และอาจจะรวม Pipe Stress ด้วย) เขาก็เลยจะหาคนมาดูวิศวกรแทน พอเขาพูดแบบนี้เราก็รู้แล้วว่าเขาจะเอาอะไร รีบส่ายหัวทันที บอกว่า เราไม่ทำ เขาก็คงคิดไว้แล้วเหมือนกันว่าถ้าเราปฎิเสธเขาจะทำยังไง เขาก็เลยยิงคำถามว่า ถ้าเราไม่ทำเราจะมีปัญหาอะไรกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้หรือเปล่า (มีหัวหน้าคนใหม่ที่ไม่ใช่พี่ ธ.)

เราบอกว่าเราไม่สนใจว่าใครจะมา เป็น Lead ของพวกวิศวกร ขอให้มันไม่ใช่เราก็พอ ทอมพยักหน้าหงึกๆ บอกว่า แค่อยากจะ Make sure ว่า เราไม่มีปัญหา เราเลยย้อนกลับไปว่า ทำไมเราจะต้องมีปัญหาด้วยหละ เรารู้ว่าความจริงเขาไม่ได้อยากจะ Make sure ว่าเราจะไม่มีปัญหา แต่เขาอยากจะให้เราเป็น Lead ของพวกวิศวกรต่างหาก แต่พอเราปฏิเสธซะตั้งกะเขายังไม่อ้าปากบอก เขาก็ต้องเสไปทางนั้น แต่เอ๊ะ คิดดูอีกที หรือเขาจะกลัวว่าถ้าเอาคนที่เราไม่ชอบมาเป็นหัวหน้า คนคนนั้นจะมีอันต้องระเห็จไปที่อื่น มีตัวอย่างมาแล้วทั้งไทย (พี่ข.) ทั้งฝรั่ง (จอน)

เราคิดว่าพอเราบอกว่าไม่ทำแล้วจะจบ แต่ทอมยังเสไปต่ออีกว่า ถึงยังไงเขาก็ยังอยากให้เรามีส่วนร่วมในการทำงานโปรเจ็คต์อยู่ดี (หมายถึงว่า ไม่ว่าเราจะรับเป็น Lead หรือไม่เป็นก็ตาม) เพราะมันยังมีเรื่องที่ท้าทาย และมันก็จะเป็นประโยชน์กับแผนกและบริษัทโดยรวม ทอมมักจะเป็นคนที่ชอบคิดแทนคนอื่น เขาชอบคิดว่าเราจะเบื่อกับการที่ต้องทำงานซ้ำๆ จำเจไม่ท้าทาย คิดว่าเราจะอยากเปลี่ยนไปงานใหม่ๆ ที่ท้าทายความสามารถมั่ง (You think wrong!!)

ทุกวันนี้เรารู้สึกว่าโดนท้าทายมากเกินไปแล้วกับการต้อง Deal กับคน เราอยากได้งานง่ายๆ ที่ไม่ต้องคิด ไม่ต้องหาคำตอบจนปวดหัว อยากได้งานที่มาถึงแล้วก็เข้าโหมด Autopilot แล้วก็ตะลุยทำไปเสร็จ (คิดแบบนี้ก็ทำงานไม่คุ้มกับเงินเดือน แต่ขอโทษเถอะ ทุกวันนี้อยากให้เขาเอาเงินเดือนที่ขึ้นปีที่แล้วคืนไป แล้วก็ลดงานให้ไปเท่ากับปีที่แล้วด้วย เราคงมีความสุขมากกว่านี้) เราบอกทอมว่า เราไม่ต้องการงานที่ Challenge เอางานน่าเบื่อๆ มาเถอะ เราชอบ (ทอมจะรู้ไหมเนี่ยว่าเราไม่ได้ประชด)

โดนนนนน

พอเราปิดประเด็นเรื่องการเป็น Lead ไปแล้ว ทอมก็เลยหันมาถามสารทุกข์สุกดิบของโปรเจ็คต์ที่เราดูอยู่ เราก็ตอบๆ ไปตามเรื่องตามราว สุดท้ายไม่มีเรื่องอะไรจะพูดต่อ เราก็นึกว่ารอดตัวแล้วเตรียมจะลุกจากเก้าอี้ ปรากฏว่าโดนซัดเข้าไปเต็มหมัดลุกไม่ขึ้น เพราะทอมถามแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยขึ้นมาว่า ตกลงเว็บไซต์เราเป็นไงมั่ง เขายังเห็นรายชื่อเราใน Internet Usage Report อยู่ทุกเดือน

เราไม่รู้จะตอบว่าไงก็เลยตอบไปมั่วๆ ว่า ก็ดี ตอนนี้ก็มีคนเข้ามามากขึ้น (แต่ในใจคิดสงสัยว่าเว็บไหนของเราที่ติดอันดับใน Report คาดว่าน่าจะเป็นบอร์ดแน่ๆ ซึ่งทำให้เราเสี่ยงมากๆ เพราะนโยบายอินเตอร์เน็ตของบริษัท ห้ามไปมีกิจกรรมข้องเกี่ยวกับเว็บบอร์ดโดยเด็ดขาด แต่ขนาดเป็นนโยบาย เราก็ยังเข้าบอร์ดเป็นกิจวัตรประจำวัน แบบนี้เขาเรียกว่าไม่กลัวตาย...)

ทอมบอกว่า บางทีเขาก็อัพโหลดไฟล์ขึ้นเว็บไซต์ส่วนตัวของเขาจากที่ทำงานเหมือนกัน เพราะมันเร็วกว่าอัพโหลดผ่านโมเด็มที่บ้าน ประมาณว่าไม่อยากให้เราเสียความรู้สึกว่าโดนด่าว่าเข้าเว็บไซต์ที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องานมากเกินไป แต่ในความเป็นจริงก็คือว่า นี่คือการปรามแบบอ้อมๆ เกี่ยวกับการใช้อินเตอร์เน็ตในเวลางานของนั่นเอง