Guestbook Responses
ตอนแรกพิมพ์ตอบในเกสต์บุ๊กแล้ว แต่ตอบไปได้แค่คนเดียวรู้สึกว่ายาวเกิน เลยเปลี่ยนใจเอามาแปะในไดอารี่ดีกว่า ประหยัดการหาเรื่องมาเล่าไปได้อีกวันหนึ่ง (แบบนี้นึกเสียว่ากินมาม่าก็แล้วกันนะเก๋)

from mama aiko : [@] [www]
อยากรู้ว่า ดร.เอเดรียนเป็นผู้เชี่ยวชาญจริงหรือปลอม search ให้หน่อยดิ
12:58 am - Tuesday,November 4, 2003

คำตอบ: “... ” (ขี้เกียจหาคำตอบ เพราะไม่เห็นว่าเป็นประเด็นสำคัญพอที่จะกระตุ้นความอยากรู้ของนิจวรรณได้)

from hinghoi : [@] [www]
ลืมไป เราไม่เก่งอังกฤษ ขี้เกียจอ่านจึงมาถามว่า แล้วรู้ได้ไงว่าต้องใส่ยาสีฟันแต่ละสีในปริมาณเท่าไรมันถึงจะเป็นริ้วได้จนหยดสุดท้าย
1:51 am - Wednesday,November 5, 2003

คำตอบ: เราสามารถคำนวณหาได้เพราะสิ่งที่เขาคิดมันเป็นวิทยาศาสตร์ล้วนๆ เลย (แต่ในการผลิตจริงออกมาขาย เราว่าของต้องทำการทดลองควบคู่ไปด้วย เพื่อให้เกิดความถูกต้องแม่นยำมากขึ้น เป็นงานของพวก Product R&D ไง)

ถ้า หห จำได้ หลังจากที่เราถามคำถามไว้ในไดอารี่ พี่ปุ๊กก็มาโพสต์ลิงก์ของเว็บที่มีคำอธิบายไว้ที่เว็บบอร์ด อันนั้นจะมีรายละเอียดมากกว่า เพราะเราเข้าไปอ่านคร่าวๆ เห็นมีประวัติความเป็นมา มีเกร็ดความรู้ต่างๆ ด้วย (เป็นต้นว่า ถ้าเราอยากจะทำให้ยาสีฟันมันเจ๊ง ไม่เป็นริ้วสวยงาม ก็แค่ขยำๆ หลอดยาสีฟันให้ยาสีฟันสองสีมันผสมกันสำเร็จแล้ว) เราไม่ได้ใส่ลิงก์นั้นในไดอารี่ เพราะรูปที่ใช้อธิบายสู้อันที่เราหาเจอไม่ได้ และอีกอย่างข้อมูลมันเยอะและดูเป็นทฤษฎีมากเกินไปหน่อย

กลับมาเรื่องการคำนวณหาปริมาณยาสีฟัน (เราไม่ได้เช็คกับทฤษฎีที่เขาเขียนนะ) เราว่ามันต้องขึ้นอยู่กับขนาด (พื้นที่หน้าตัด) ของหลอดที่สอดเข้าไปเทียบกับขนาดพื้นที่หน้าตัดของรูเล็กๆ ที่เจาะ (และจำนวนรูที่เจาะด้วย) คือพื้นที่หน้าตัดทั้งสองส่วนนี้จะเป็นตัวกำหนดว่า ยาสีฟันสีไหนจะออกมากออกน้อยในการบีบแต่ละครั้ง

เราคิดว่าถ้าเรามีเวลา เราก็คงคำนวณคร่าวๆ ด้วยความรู้ระดับไม่ยากเกินไปได้ (คงไม่ต้องไปถึงขนาดสมการดิฟเฟอเรนเชียล หรือใช้ Fourier Transform) แต่ที่เราทึ่งมากๆ คือ ไอเดียของเขา คนที่คิดเขาคิดเรื่องนี้ขึ้นมาได้ยังไง แล้วที่แน่กว่าก็คือ คนที่คิดเอาไอเดียทางวิทยาศาสตร์แบบนี้มาประยุกต์ให้เป็นการค้าได้นี่ก็สุดยอดเหมือนกัน ให้เราคิดเองให้ตายก็คิดไม่ออกแน่นอน

from moo : [@] [www]
แล้วดร.เอเดรียนคือใครเหรอ
2:07 am - Wednesday,November 5, 2003

คำตอบ: ดร. เอเดรียน เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านคราบเลือดชาวสก็อตแลนด์ เป็นอาจารย์สอนทีมหาวิทยาลัยสแตรทไคลด์ เขาได้รับเชิญให้มาให้ความเห็นในกรณีการตายของคุณห้างทอง ธรรมวัฒนะ เนื่องจากน้องสาวของคุณห้างทองไม่เชื่อว่าคุณห้างทองจะฆ่าตัวตายตามที่ตำรวจสรุปคดีไปเมื่อ 4 ปีก่อน เลยส่งภาพถ่ายสถานที่เกิดเหตุ (Crime Scene) ไปให้ดร.เอเดรียนดู

ดร.เอเดรียนดูจากภาพถ่ายแล้วสรุปออกมว่า มีหลายประเด็นที่ขัดแย้งกัน (Inconsistencies) กับความเชื่อที่คิดว่าเป็นการฆ่าตัวตาย หมอพรทิพย์เลยเอาเรื่องออกมาตีแผ่ว่ามีประเด็นให้เชื่อได้ว่าคุณห้างทองจะถูกฆาตรกรรม ก็เลยเป็นที่มาของการสืบสวนรอบใหม่ที่ครึกโครมอยู่ในหน้าหนังสือพิมพ์ช่วงเดือนที่ผ่านมา

เมื่อวานแม่ไอโกะโทรมาคุยว่า ดูข่าวโทรทัศน์ตอนเช้า เหมือนว่ามีคนไปสืบรู้มาว่าดร. เอเดรียนอาจจะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านคราบเลือดอย่างที่กล่าวอ้างมา แต่มีความเชี่ยวชาญในด้านชีววิทยามากกว่า ก็เลยมาบอกให้เราไปช่วยค้นในอินเตอร์เน็ตให้ โดยอ้างว่าตัวเองอ่านภาษาอังกฤษไม่เก่ง

สารภาพความจริงว่า ตอนที่บอกว่าเราไม่หาให้หรอก เพราะคิดว่ามันบ้าและไร้สาระเกินไป น่าจะเป็นการสร้างข่าวเอาไว้ขายมากกว่า แหม อยู่ๆ คนอย่างหมอพรทิพย์จะโดนหลอกขนาดนั้นก็เกินไป ท่าทางหมอไม่ใช่คนที่ใจเร็วอย่างนายกฯ ตอนที่เชื่อเรื่องขุมทรัพย์โกโบรินทร์ และหมอเป็นคนที่ทุ่มเทกับนิติวิทยาศาสตร์มากๆ ไม่น่าจะมาเสียฟอร์มตกม้าตายกับเรื่องง่ายๆ เช่นนี้ แต่ก็อดคลางแคลงใจนิดๆ ไม่ได้ ก็เลยแวบๆ ไปเสิร์ชหาชื่อดร.เอเดรียนจากอินเตอร์เน็ต

น่าแปลกใจมีชื่อดร.เอเดรียนอยู่น้อยมาก และที่มีอยู่เป็นอันดับแรกๆ กลับเป็นชื่อที่ปรากฏในหน้าหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษของไทยที่เขียนรายงานข่าวคุณห้างทองเสียอีก แต่ทั้งนี้ก็เป็นไปได้ว่าสาขาวิชาที่ดร.เอเดรียนมีความเชี่ยวชาญเป็นศาสตร์ที่ยังไม่มีความแพร่หลายมากนักก็เป็นได้

แต่เท่าที่เราอ่านแบบคร่าวๆ ดร.เอเดรียนทำงานในภาควิชาที่เกี่ยวกับ Forensic Science ที่ Strathclyde University จริง มีผลงานทางวิชาการและไปบรรยายทางวิชาการในต่างประเทศบ้าง แต่เราไม่ได้ลงไปดูในรายละเอียดว่าเนื้อหาจะเฉพาะเจาะจงไปทางด้านคราบเลือดจริงๆ หรือเปล่า ตอนนี้ก็ไม่ได้ยินใครโหมข่าวเรื่องว่าดร.เอเดรียนจะเป็นตัวปลอมทางสื่อใดๆ ก็เดาเอาว่าข่าวที่ว่าคงไม่มีมูลความจริง

from moo : [@] [www]
ดูรูปแล้วเข้าใจขึ้นเยอะเลย
1:59 am - Wednesday,November 5, 2003

คำตอบ: เขาถึงมีสำนวนว่า A picture is worth a thousand word ไง