แต่จากที่อ่านในเว็บไซต์ หมอฝัน (Dream Doctor) เขากลับให้ความหมายของ Lucid Dream ไว้ว่าเป็นฝันที่คนฝันรู้ตัวอยู่ว่ากำลังฝันอยู่ เขาบอกว่าปกติมักเกิดตอนที่เหตุการณ์ในฝันมันวิกฤตหรือกระทบกระเทือนความรู้สึกของคนฝันมากๆ จนคนที่ฝันรู้สึกกลัวหรือตกใจมากๆ เช่น เราอาจจะฝันว่าเกิดอันตรายถึงชีวิตกับเรา อาจจะโดนไล่ล่าจากพวกมาเฟีย เป็นต้น

โดยปกติพอถึงจุดที่คนที่ฝันเริ่มกลัวหรือตกใจจนทนไม่ได้ ก็มักจะตื่นจากฝันซะเป็นส่วนใหญ่ อย่างนี้ไม่นับเป็น Lucid Dream การเป็น Lucid Dream คือ คนฝันยังไม่ตื่นแต่เริ่มตะหนักว่า เอ๊ะ... เราฝันไปหรือเปล่า เรามาทำอะไรกับพวกมาเฟีย ชาตินี้ทั้งชาติรู้จักมาเฟียก็แต่ในหนัง เขาจะมาไล่ล่าเราทำไมกัน มันไม่น่าจะจริงได้ แล้วก็เริ่มรู้สึกตัวว่า เออ... นี่มันฝันชัดๆ

มานึกดู เราก็เคยมี Lucid Dream อยู่บ้างเหมือนกัน ครั้งหนึ่งเคยฝันว่าขับรถไปชนกับคนอื่น แล้วรถพังมากๆ ก็เศร้าเลย แล้วซักพักก็คิดได้ว่า เอ๊ะ เราไม่น่าจะซวยขนาดนี้เลยนะ รถเพิ่งโดนชนไปหมาดๆ ต้องเป็นฝันแน่ๆ เลย คิดได้แล้วเลยโล่งใจ นอนหลับต่อแบบไม่ฝันจนสว่าง

อีกครั้งหนึ่งเราฝันถึงหัวหน้าเก่า ว่าเขากลับมาทำงานที่บริษัทเราอีกหลังจากที่มีเรื่องกันใหญ่โต เราเห็นเขาในออฟฟิศก็ตกใจ Ship หาย แล้วก็เครียดเลย ไปบ่นกับเพื่อนร่วมงานเสียยกใหญ่ แล้วสุดท้ายก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า นี่เราฝันแหงๆ เลย (ก่อนหน้านี้เคยฝันมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ต่างกันในรายละเอียด) หัวหน้าเก่าเราออกไปแล้วไม่มีวันยอมกลับมาทำงานที่บริษัทเราแน่ แล้วก็ยังขำอยู่ในฝัน ยังบอกกับตัวเองด้วยซ้ำว่า เดี๋ยวตอนเช้าเราจะต้องไปเล่าให้เพื่อนร่วมงานฟัง พอคิดได้ว่าเป็นฝันก็โล่งใจ ไปฝันเรื่องอื่นต่อจนรุ่งเช้า

ในเว็บไซต์ที่อ่านเขาบอกว่าการที่เรารู้ตัวว่าเรากำลังฝันอยู่ สามารถฝึกกันได้ โดยเฉพาะกับเรื่องทั่วๆ ไปที่คนส่วนใหญ่ชอบฝันและฝันซ้ำบ่อยๆ เช่น ฝันว่าบินได้ ฝันว่าตกจากที่สูง ในขณะที่ฝันถ้าเราสามารถบอกตัวเราเองว่าเรากำลังฝันอยู่ เราก็อาจจะสามารถควบคุมการฝันของเราไปในทิศทางที่ต้องการได้ เช่น ฝันว่าบินได้ เราอาจจะเริ่มคิดที่จะบินอย่างแอดวานซ์ผาดโผน ฝันว่าตกจากที่สูง ก็อาจจะเริ่มคิดได้และจินตนาการไปว่ามีแผ่นดินหรือพื้นที่รองรับเราอยู่ไม่ไกล พอเริ่มฝึกมากขึ้นๆ ต่อไปเราก็จะสามารถฝันอย่างมีความสุขได้ ไม่มีการฝันร้ายตกใจตื่น นอกจากนี้เขายังคิดว่า Lucid Dream สามารถจะทำให้คนสามารถฝึกสมาธิและฝันอย่างสติได้อีกด้วย