The Door of Opportunity
แม่เป็นคนที่ชอบเล่นหวย แม่ซื้อหวยใต้ดินและ/หรือล็อตเตอร์รี่แทบทุกงวด งวดไหนมีเลขเด็ดก็อาจจะซื้อเยอะหน่อย (ขึ้นหลักพัน) แล้วถ้าซื้อเยอะๆ แล้วถูกกิน (เหตุการณ์ปกติ) แม่จะบ่นว่า งวดหน้าฉันไม่เอาแล้ว เลิกซื้อแล้ว แต่ก็เห็นแม่อดไม่ได้ซักที บางทีพอหวยออกแล้ว เราก็จะได้ยินแม่บ่นว่า เลขแบบนี้ออกมาได้ยังไง ซื้อยังไงก็ไม่มีทางถูก เพราะเลขไม่สวย เห็นแล้วก็ยังไม่อยากซื้อเลยด้วยซ้ำ แม่เคยพูดว่าเลขท้าย 15 เนี่ยมันจะไม่ออก เพราะมีคำพูดในภาษาจีนทำนองว่า ถ้าเลขสิบห้าออกมาคนในราชวงศ์ (ระดับสูงๆ ด้วย) จะถึงแก่ชีวิต อันนี้เป็นแค่คำพูดต่อๆ กันมา แต่แม่ก็บอกว่าเท่าที่จำได้ ไม่เคยเห็นมันออกเลข 15 ซักที

เราเป็นคนที่ไม่คิดว่าจะถูกหวยรวยเป็นสิบๆ ล้านได้ คือ คิดว่าโอกาสถูกมันน้อยมากๆ เป็นความหวังลมๆ แล้งๆ เราบอกแม่อยู่บ่อยๆ ว่า ถ้าเอาเงินที่จะซื้อหวย ไปฝากธนาคารไปเรื่อยๆ ระยะยาวแล้ว ฝากธนาคารน่าจะได้ผลตอบแทนที่ดีกว่า แม่ฟังแล้วก็ดีใจ เพราะแม่บอกว่าให้แม่บ้าหวยอยู่คนเดียวดีกว่า อย่าให้ลูกบ้าตามไปด้วยเลย

แต่แม่ก็เคยถูกหวยเยอะๆ เหมือนกันนะ ประมาณหลายหมื่น (หรือจะถึงแสน?) แต่ต้องบอกว่า เป็นครั้งเดียวจากการซื้อหวยต่อเนื่องเป็นหลายสิบปี ยังไงเราก็ยังว่าไม่คุ้มอยู่ดี อีกอันหนึ่งที่ตลกมากเกี่ยวกับแม่กับหวยคือ เวลามีคนถูกล็อตเตอร์รี่รางวัลที่หนึ่งได้เงินหลายสิบล้าน ก็จะลงข่าวหนังสือพิมพ์ แล้วก็มีญาติพี่น้องมาขอแบ่งต่างๆ นานา แม่บอกว่า ถ้าแม่ถูกรางวัลที่หนึ่งนะ แม่จะเฉยๆ จะไม่ให้ใครรู้เลยว่าแม่ถูกล็อตเตอรี่ เราก็เลยแกล้งๆ ถามไปว่า แล้วแม่จะบอกเราไหม แม่ตอบว่าไม่บอก คราวนี้เราเลยลังเลใจ.. แม่อาจจะถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่หนี่งไปแล้วแต่ไม่ยอมบอกเราก็เป็นได้นะเนี่ย...

วันก่อนเราดูทีวีรายการเล่าข่าวตอนเช้า พิธีกรพูดเรื่องหวย บอกว่าตัวเองเป็นคนไม่ซื้อหวย แต่มีคนรู้จักกันที่เขาซื้อล็อตเตอรี่เป็นประจำทุกงวดและซื้อแบบที่เป็นชุดด้วย (ถ้าถูกรางวัลที่หนึ่งก็ได้สี่สิบหรือหกสิบล้านอะไรโน่นเลย) คนรู้จักกันคนนี้ก็แนะนำให้พิธีกรซื้อล็อตเตอรี่บ้าง บอกว่าเป็นการ “เปิดประตูดวง” ให้ตัวเอง

เขาบอกว่า คนเราบางทีมีจังหวะก็อาจจะดวงดี ตามดวงอาจจะมีโอกาสรวยเป็นสิบล้าน แต่ถ้าหากทำงานไปเรื่อยๆ ทำยังไงจะได้เงินเป็นสิบล้าน มันไม่มีโอกาส ประมาณว่าดวงมาถึงแล้วแต่เราไม่เปิดประตูรับ แต่ถ้าเราซื้อล็อตเตอรี่เป็นประจำ ถึงคราวดวงดีก็อาจจะรวยได้ เป็นการเปิดประตูเอาไว้ รอรับดวง

เราก็เลยมานึกดูว่า เห็นทีจะต้องเริ่มซื้อล็อตเตอรรี่ซักงวดละฉบับ (ไม่ได้อยากรวยหรอกนะ แต่ประมาณว่าอยากมีความมั่นคงในชีวิต ฮ่าๆ) เผื่อว่า “ดวง” มาถึงแล้วจะได้เข้าประตูได้ ไม่ใช่มาถึงแล้วหาทางเข้าไม่ได้ เลยไปเข้าประตูคนอื่นแทน แต่พอเอาไอเดียนี้ไปคุยกับแม่ (แม่ก็ดูรายการเล่าข่าวอันนี้พอดีเหมือนกัน) แม่บอกว่า ช่างมันเหอะ ไม่ต้องซื้อหรอก ยังยืนยันความมุ่งมั่นเดิมว่าให้แม่บ้าหวยคนเดียวพอ

ช่วงที่ผ่านมาเตี่ยไม่ได้ทำงานที่บ้านแล้ว (เกษียณตัวเอง) มีเวลาว่างๆ ก็ไปเล่นหุ้น (เคยถามก๊อใหญ่ว่าเตี่ยไปไหน เขาบอกว่า “ไปตลาด” เราก็งงว่า เอ๊ะ เตี่ยไปตลาด แล้วทำไมแม่ยังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่เลย เพราะทุกทีคือแม่ไปจ่ายกับข้าวที่ตลาด เตี่ยก็ขับรถไปให้ แต่ที่จริงคือ เตี่ยไปตลาดหุ้น) แม่ก็ไม่ค่อยชอบ เพราะดูว่ามันเป็นการพนัน และกลัวเตี่ยจะขาดทุน (แต่ความจริงคือแม่กลัวมากไป เตี่ยเขาทำธุรกิจประสบความสำเร็จมาขนาดนี้ เขารู้ว่าตัวเองทำอะไรอยู่ ก็ประมาณว่าตั้งงบขึ้นมาว่ามีเงินก้อนเท่านี้ ถ้าได้กำไรก็เอามาใช้ ถ้าขาดทุนแล้วหมดเงินทุนก้อนนี้ไปก็เลิกกัน เท่าที่ผ่านมาเตี่ยก็ได้กำไรดีอยู่เหมือนกัน)

แม่จะพยายามบอกเราว่าให้คอยไปพูดๆ แย็ปๆ กับเตี่ยว่า เล่นหุ้นไม่ดี อย่าเล่นเลย ฯลฯ แต่เราก็ไม่พูด เพราะเราว่ามันเป็นกิจกรรมอย่างหนึ่ง จะได้มีอะไรทำไม่เบื่อ แม่ยังกลัวไปอีกว่า เตี่ยเล่นหุ้นแล้วจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ทำให้เราอยากเล่นหุ้นไปด้วย (ทั้งๆ มีอยู่ช่วงหนึ่งเราก็เคยคิดจะ “ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์” เหมือนกัน เพราะคิดว่าปัจจุบันนี้การฝากเงินในธนาคารไม่ใช่ทางที่จะทำให้เงินงอกเงยขึ้นมาได้ แต่ความคิดนี้ไม่ได้มีอิทธิพลมาจากการเล่นหุ้นของเตี่ยแต่อย่างใด) ประมาณว่าคนเป็นแม่ก็ยังเป็นแม่อยู่นั่นเอง จะคอยสอน คอยเป็นห่วง ถึงแม้ลูกจะโตจะแก่ขนาดไหนแล้วก็ตาม

ความจริงเตี่ยเขาก็ไม่ได้ภาคภูมิใจกับการเล่นหุ้นและกำไรที่ได้จากหุ้นซักเท่าไหร่ ไม่ค่อยอยากเอาไปคุยให้ใครฟังว่า เล่นหุ้น มันฟังแล้วเป็นภาพลบอ่ะนะ วันก่อนโน้นเรากลับบ้านแม่กลอง ค่ำๆ แล้ว เตี่ยกับแม่ก็อาบน้ำเสร็จ นอนดูทีวีกันอยู่ ก็ไปคุยๆ ซักพัก แล้วก็บอกว่า จะไปนอนแล้ว แม่บอกว่า “นอนหลับฝันดีนะ” เราก็งง โอ้โห แม่มามุขไหน เขาก็เลยพูดต่อว่า “ฝันเห็นเลขให้ด้วยนะ” เราก็เลยถึงบางอ้อ อ๋อหวยจะออก เตี่ยก็เลยพูดขึ้นมาว่า “คนบ้านนี้ใช้ไม่ได้เลย แม่มันก็เล่นหวย เตี่ยมันก็เล่นหุ้น” (ฮ่าๆ) แต่แม่กลับพูดต่อว่า อ๋อ แม่เป็นคนจนไง เลยต้องเล่นหวย ส่วนเตี่ยเป็นคนรวยก็เลยเล่นหุ้น (ฮ่าๆ อีกที)