Lesson Learned
ตอนเด็กๆ จำได้ว่าครูสอนว่าเวลาจะซื้ออาหารกระป๋อง ต้องตรวจดูวันหมดอายุ ต้องดูว่ากระป๋องใหม่ๆ ไม่มีสนิม ไม่บุบบิบบู้บี้ ทุกวันนี้เวลาซื้ออาหารกระป๋องเราก็ต้องตรวจให้ครบทุกข้อ (จะว่าไปปกติเราก็ไม่ค่อยซื้ออาหารกระป๋องซักเท่าไหร่ แต่ที่ซื้อเป็นประจำคือ นมข้นจืด เอาไว้ใส่กาแฟ อันนี้เป็นความเรื่องมากที่ติดมาจากตอนเรียนอังกฤษ ถ้าเลือกได้เราจะกินกาแฟใส่คอฟฟี่เมต ก็เลยมีนมข้นจืดติดตู้เย็นเป็นประจำ)

ส่วนใหญ่ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตเขาจะไม่ค่อยกล้าเอาของเก่าๆ หมดอายุมาขาย ที่เราเจอก็เลยจะเป็นปัญหากระป๋องบุบๆ ซะเป็นหลัก เจอกระป๋องบุบเราก็ไม่หยิบ ก็จะเข้าไปหยิบกระป๋องในๆ บางทีแทบจะต้องรื้อชั้นวางของเข้าไปเลย (คนอื่นก็คงเลือกแบบเดียวกับเราทำให้กระป๋องที่วางอยู่หน้าๆ มีแต่บุบๆ เราก็เลยยิ่งต้องรื้อเข้าไปลึกๆ ใหญ่)

เวลาซุปเปอร์มาร์เก็ตเอาเครื่องกระป๋องของมาลดราคา เราก็จะตรวจดูเป็นพิเศษ เห็นกระป๋องบุบเราก็คิดไว้ก่อนเลยว่า อ๋อ... ที่เอามาลดราคาเพราะกระป๋องบุบละซี แต่ถ้าถามเอาเหตุเอาผล เราก็คิดไม่ค่อยออกว่าอาหารกระป๋องบุบๆ มันไม่ดียังไง มันอาจจะบุบเพราะตอนขนส่งก็ได้ อาหารข้างในไม่น่ามีปัญหา

เหตุผลเดียวที่พอจะนึกออกคือ เวลากระป๋องบุบๆ ผิวโลหะข้างใน “อาจจะ” กะเทาะเข้าไปปนเปื้อนในอาหาร แต่สมัยนี้เทคโนโลยีดีจะตาย ผิวโลหะไม่น่าจะกะเทาะได้ แต่ยังไงๆ เราก็ไม่วางใจอยู่ดี

วันนี้เราไปซื้อนมข้นจืดมา 4 กระป๋อง ก็เลือกตามสูตรที่จำขึ้นใจนี่แหละ แต่พอกลับมาถึงบ้านจะเอาเก็บใส่ตู้ อ้าว มีอยู่กระป๋องหนึ่งบุบบู้บี้เชียว สงสัยคงไปกระแทกอะไรตอนที่เราเอาของใส่รถ เราก็เลยแยกเอากระป๋องที่บุบออกมา กะว่าจะกินก่อน ทีนี้เราก็คิดว่าเออ... กระป๋องบุบๆ แบบนี้ไม่น่าจะดี เราเปิดกระป๋องแล้วถ่ายใส่กระปุกพลาสติกดีกว่า

พอเปิดกระป๋องนมปุ๊บ... นมข้นจืดในกระป๋องมันพุ่งปรี๊ดออกมา กระเด็นเลอะหน้า เลอะผม เลอะแขนเราไปหมด เสื้อด้านหน้าก็เปรอะไปด้วย เราต้องทิ้งกระป๋องนมไว้ในอ่างล้างจาน ไปอาบน้ำสระผมอีกรอบหนึ่ง แล้วค่อยกลับมาจัดการร่องรอยตามที่กระเซ็นที่ตามพื้นตามผนังห้องครัว

ตอนนี้เข้าใจได้ชัดเจนเลยว่าอาหารกระป๋องที่มันบุบๆ มันไม่ดียังไง เพราะพอกระป๋องมันบุบ ปริมาตรในกระป๋องก็จะลดลง ทำให้ความดันในกระป๋องเพิ่มขึ้น พอเราเจาะกระป๋องปุ๊บ ของไหลในกระป๋องก็จะพุ่งออกมาด้วยความเร็วสูง นี่อาจจะไม่ใช่เหตุผลหลักที่ทำให้คนไม่ซื้ออาหารกระป๋องบุบๆ แต่ถ้าต้องเปิดอาหารกระป๋องที่บุบๆ แล้วละก็...ใส่ผ้ากันเปื้อนและหาหมวกคลุมผมอาบน้ำมาใส่ก่อนก็จะเป็นการดีแก่ตัวท่านเอง

ปล. ตอนแรกเราคิดว่า ซวยชิบเป๋งเลย อยู่ดีไม่ว่าดี ทำอะไรโง่ๆ จนต้องอาบน้ำอีกรอบหนึ่ง แต่พอคิดไปคิดมา นับเป็นโชคดีของเราต่างหาก เพราะเปลี่ยนเป็นตอนเช้าเราชงกาแฟก่อนไปทำงาน คงวุ่นวายพิลึก เพราะทุกวันนี้ก็ไปทำงานสายแย่แล้ว ถ้าต้องมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ แถมทำความสะอาดครัวอีก จะยิ่งสายไปกันใหญ่