โหมโรง หนังดีที่ทำเงิน (ในที่สุด)
ว่าจะจบเรื่องโหมโรงแล้ว เพราะโปรโมทจนคนแถวๆ นี้ (มีอยู่คนเดียวแหละ) เริ่มหมั่นไส้ แต่พอดีมีข่าวอัพเดทเลยเอาซะหน่อย

เมื่อประมาณวันอังคารเราเข้าไปห้องเฉลิมไทยที่พันธ์ทิพย์ (ช่วงนี้จิตในวนเวียนอยู่แต่กับโหมโรงเนี่ยแหละ) ตอนแรกมีคนเขียนว่ารายการถึงลูกถึงคนจะเชิญโหมโรงมาออก เราก็อุตส่าห์ดีใจ ปรากฏว่าเขามาอัพเดทว่า ท่านมุ้ย (เป็น Producer ของโหมโรง) ไม่ว่างก็เลยไม่ได้มา เรางี้เสียดายมากๆ เพราะคิดว่าถ้าได้ออกรายการจริงๆ คงมีคนไปดูกันมากขึ้น

ปรากฏว่าพอคืนวันพุธห้าทุ่มเรากำลังท่องเน็ตอยู่ กะว่าอีกซักแป๊ปหนึ่งก็จะไปนอนแล้ว แต่เปิดไปช่อง ๙ เจอภาพตีระนาดรัว เรามือไม้สั่นรีบส่ง MSN ไปหาเก๋ (หนึ่งในผู้สนับสนุนหลักอย่างไม่เป็นทางการ) ทั้งๆ ที่เขายังไม่ขึ้นหัวรายการว่าเป็นโหมโรงเลยนะ บอกว่า ให้ดูช่อง ๙ ด่วน เพราะโหมโรงมาออก เราก็ดูรายการจนจบ (วันรุ่งขึ้นตื่นสาย แล้วก็ง่วงนอนด้วย)

เราไม่ค่อยชอบท่าทีของพิธีกรเท่าไหร่ และเราก็ไม่ค่อยชอบที่เขาให้ท่านมุ้ยพูดตอนเริ่มต้นรายการ ก่อนผู้กำกับหรือดารานำ (แต่คิดว่ามันต้องเป็นตามลำดับแบบนั้น ด้วยยศศักดิ์และความอาวุโส) เพราะพูดแล้วไม่ค่อยชวนคนดูเท่าไหร่ พิธีกรเล่าเรื่องมากไปและตั้งคำถามออกแนวลบแนวต่อต้าน ส่วนท่านมุ้ยก็พูดเหมือนจะบ่นๆ ว่า พวกโรงหนังไม่ยอมช่วย แต่ทั้งคุณอิทธิสุนทร คุณอดุลย์ และอาจารย์ณรงค์ฤทธิ์ (หรือเปล่านะ จำไม่ค่อยได้ เขาเล่นเป็นขุนอินหนะ) ก็ทำได้ดี สร้างคะแนนนิยมได้พอดู

อีกส่วนหนึ่งที่เด็ดและจัดเป็นไฮไลท์ได้ก็คือ คุณปัญญา แห่งรายการแฟนพันธุ์แท้ก็โทรเข้ามาชื่นชมด้วย ถึงแม้คุณพิธีกรจะพยายามสกัดความชื่นชมของคุณปัญญาไว้เล็กน้อย (ว่าไม่ใช่หน้าม้านะ เพราะคุณอิทเป็นรุ่นน้องคุณปัญญา) แต่คุณปัญญาก็ตอบคำถามและแสดงความเห็นได้ดี น้ำเสียงและคำพูดแสดงให้เห็นถึงความจริงใจ น่าจะมีหลายๆ คนที่ตัดสินใจไปดูโหมโรง เพราะคุณปัญญา

เช้าวันพฤหัสเท่านั้นแหละห้องเฉลิมไทยกลายเป็นคอกม้ากันอีกรอบหนึ่ง มีคนมาโพสต์เรื่องโหมโรงกันเพรียบ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้กระทู้โหมโรงเริ่มซาๆ ไป ข่าวอัพเดทก็คือว่า โรงหนังหลายๆ โรงเพิ่มรอบฉาย สร้างความปลาบปลื้มให้บรรดาอัศวพักตร์ (รวมทั้งเรา) เป็นอันมาก หลายๆ คนขอบคุณพิธีกรรายการช่อง ๙ อย่างเป็นเรื่องเป็นราว เรายังคงคิดว่าคำพูดหรือความคิดเห็นของเขาไม่ได้ช่วยสร้างภาพพจน์ที่ดีให้โหมโรงซักเท่าไหร่ แต่ต้องยอมรับว่าการได้ออกรายการของเขาเป็นการสร้างกระแสที่ได้ผลทันตาเห็น

จากที่คิดว่าโหมโรงจะโดนถอดออกจากโปรแกรม วันนี้วันศุกร์ซึ่งเป็นวันเปลี่ยนรอบหนัง หลายๆ ที่เพิ่มโรงฉายให้โหมโรง เมื่อประมาณวันพุธวันพฤหัส สื่อหลายๆ ฉบับก็มีการออกมาเขียนเชียร์โหมโรงราวกับนัดกันมา ประกอบกับมีข่าวกระทรวงวัฒนธรรมจัดฉายโหมโรงรอบพิเศษให้กับบรรดาทูตานุทูตจากประเทศต่างๆ ชมด้วย

หลังจากที่เราได้ยินผู้กำกับและผู้สร้างพูดอ้อมๆ แอ้มๆ ในรายการช่อง ๙ ว่าลงทุนประมาณ ๒๕ ล้าน (เฉพาะ Production ไม่รวมโฆษณา) ฉายสองสัปดาห์ได้เงินประมาณ ๘ ล้านบาท (แบบนี้ปกติเขาเรียกว่า เจ๊งครับทั่น) แต่เราคิดว่าตอนนี้โหมโรงรอดตายแล้ว และกำลังจะสร้างทฤษฎีที่เป็น Reverse ของปรากฏการณ์แฟนฉัน

วันนี้แม่โทรมาถามเราว่าจะกลับบ้านแม่กลองวันนี้หรือเปล่า เรายังไม่ทันได้พูดอะไร แม่ก็ถามว่าไปดูมาหรือยัง (ไม่ได้บอกชื่อแต่รู้ว่าหมายถึง โหมโรง เพราะอาทิตย์ที่แล้ว เราชวนแม่ไปดูที่ราชบุรี แต่เขาไม่ฉายแล้ว โดนหนังกระเทยอัดกระเด็นออกจากโรง) เราบอกว่าไปแล้ว แต่เดี๋ยวจะพาแม่ไปดูอีก ใจก็สงสัยเล็กน้อยว่าทำไมแม่ยังไม่ลืม แม่บอกว่า “วันนี้ในรายการวีระ มีคนโทรมาชมใหญ่เลย แต่วีระมันคงอิจฉา มันบอกว่า หนังเขาดีก็ดีไปสิ ไม่เห็นต้องมาคุยโม้เลย” ประมาณว่าโอเวอร์กันเกินไป เราบอกแม่ว่าเขาบอกแบบนี้แสดงยังไม่ได้ดูนะสิ เรารู้สึกว่าคนคนนี้เขาเป็นคนประเภทที่พอเป็นเรื่องที่เขาไม่รู้ เขาก็จะขวางๆไป คือถ้าเขาไปดูหนังเรื่องนี้มาแล้ว แต่เขาไม่ชอบ (จะด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม) ความเห็นของเขาจะไม่เป็นแบบนี้

แต่ยังไงก็ตาม ทั้งๆ ที่แม่เป็นสาวกของ “อาจารย์” วีระ แม่ก็บอกว่า ฟังที่เขาโทรมาวันนี้ประกอบกับที่อ่านในหนังสือพิมพ์ แม่อยากจะไปดูจริงๆ แล้วหละ ถ้าไม่ได้ดูนี่จะอดไม่ได้ เราก็เลยบอกว่าเดี๋ยวอาทิตย์นี้จะพาไปดู แม่ก็สงสัยว่าจะไปดูที่ไหน ที่ราชบุรีมันออกไปแล้วหนิ เราบอกว่าเดี๋ยวเราโทรเช็คก่อน ก็วางหูจากแม่แล้วโทรไปโรงหนังที่ราชบุรี ก็เป็นอย่างที่เราคาดไม่ผิด ที่ราชบุรีเอาโหมโรงกลับมาฉาย ๒ รอบต่อวัน (ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ) แต่รอบไม่ค่อยดี (สำหรับเรา) คือ ๑๑ โมงเช้ากับ ๒ ทุ่ม เราคิดว่า ๒ ทุ่มมันจะดึกไป แบบนี้เราคงต้องบึ่งรถกลับแม่กลองตั้งกะวันนี้ แล้วพาแม่ไปดูรอบ ๑๑ โมงเช้าพรุ่งนี้

พอโทรไปรายงานผลกับแม่ แม่บอกว่ารู้แล้วว่ามีรอบสองทุ่ม แม่ชวนติ (คนที่แม่ฝากซื้อหวยแล้วซื้อผิด) หญิง (แฟนติ) แล้วก็คุณเส (เสมียนประจำโรงเลื่อย) แล้วว่าจะไปดูคืนนี้เลย เรางี้หน้าบานเลย แม่บอกว่าตอนแรกเขาบอกว่ามีฉายที่นครปฐม ก็ยังตั้งใจว่าจะไปดูที่นครปฐมด้วยซ้ำ

สรุปว่าในที่สุดหนังที่เราเชียร์ขาดใจ ก็รอดพ้นวิกฤตจนได้ (ข่าวล่าสุดที่อ่านในพันธ์ทิพย์ มีคนมาโพสต์ว่ารอบที่เขาไปดูมีคนประมาณร้อยกว่า ทั้งที่เป็นรอบวันพฤหัสสี่ทุ่ม อีกคนมาบอกว่า รอบที่เขาไปดู มีคนนั่งเต็มไปถึงแถวหน้าสุด) ไม่ว่าจะด้วยอะไรก็แล้วแต่ (เราว่าเฉลิมไทย ณ พันธุ์ทิพย์มีส่วนมากๆ พิธีกรปากจัดช่องเก้าก็มีผลเยอะ พวกสื่อต่างๆ ก็ช่วยผลักดันกันไป) น่าจะได้ถึง ๕๐ ล้านแน่ๆ... ไม่อยากจะพูดว่า ๑๐๐ ล้าน เพราะจะหวังผลเลิศเกินไป แต่ก็อยากจะคิดว่าหนังมีศักยภาพพอ หนังบางเรื่องเป็นหนังดีๆ มากแต่อาร์ตไป คนดูต้องปีนกระไดดู หนังบางเรื่องดูสนุกมากๆ แต่ไม่ค่อยดี (อย่าง แฟนฉัน) แต่หนังเรื่องนี้ทั้งดีทั้งสนุกจริงๆ นะ

ปล๑. แม่ไอโกะไปดูมาเมื่อวานก็บอกว่าสนุก บอกว่าชอบหมดเลย หนังดีมากๆ ดีไปหมด

ปล๒. หนังเรื่องสุดท้ายที่แม่ดู หลังจากที่ไม่ได้ดูหนังในโรงมาเป็นสิบยี่สิบปี คือ สตรีเหล็ก เรื่องนั้นก็ทำรายได้กระฉูดเหมือนกันนะ (แต่อยู่ในพวกสนุก แต่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะ)