คนเก่า...
ช่วงนี้ที่บริษัทเรางานเยอะ ก็ต้องเริ่มรับคนอีกแล้ว (หลังจากที่ปีที่แล้วรับคนเข้ามาใหม่เกือบเท่าตัวของพนักงานเดิม) เราว่าการบริหารงานบริษัทเราช่วงนี้ค่อนข้างท้าทาย เพราะงานเยอะต้องการเพิ่มคน แต่ก็ลำบากในการควบคุมคุณภาพและเปอร์เซ็นต์ Billable และการทำงานให้เสร็จตามกำหนด เพราะคนใหม่ๆ ก็ต้องให้เวลาเขาได้เรียนรู้ ต้องมีคนคอยเป็นพี่เลี้ยง คอยมีคนตรวจงานของเขาก่อนส่ง

บรรดาหัวหน้าๆ เขาก็เลยมีไอเดียการแก้ปัญหาแบบง่ายๆ คือให้รับคนที่เคยทำงานที่บริษัทมาก่อนแล้วลาออกไป ครั้งแรกที่เราได้ยินว่ามีคนที่ลาออกไปแล้วจะกลับเข้ามาทำงานใหม่ เราก็แปลกใจ คือ คิดว่าก็ลาออกไปแล้วก็แสดงว่าไม่อยากอยู่บริษัทนี้ แล้วจะกลับมาอีกทำไม แต่หลังๆ นี่ เจอหลายๆ กรณีเข้าก็ชักชิน เออดีเหมือนกัน คุ้นหน้ากันดี หลายๆ คนสรุปให้เราฟังว่า พวกที่ลาออกไปแล้วยอมกลับมา เพราะไม่มีบริษัทไหนงานสบายเท่าบริษัทเราอีกแล้ว (ซึ่งก็มีทั้งจริงและไม่จริง)

แต่ขนาดชินๆ เรื่องการเข้าๆ ออกๆ ของเพื่อนร่วมงาน ก็ยังมีบางกรณีที่ทำให้เราอึ่งทึ่งประหลาดใจ ประมาณว่าต้องหยิบยกมาคุยตอนว่างๆ ด้วยความสงสัยว่า พวกผู้บริหารเขาเอาอะไรคิดตอนตัดสินใจรับพนักงานเก่ากรณีแปลกๆ แบบนี้เข้ามา (เดาว่าใช้หัวแม่เท้า)

อย่างกรณีแรกก็คือกรณีแผนก Civil เราเรียกพี่ A ละกัน แกออกจากบริษัทไปตอนที่มีการเปลี่ยนชื่อบริษัท (เมื่อตอนปลายปี ๒๐๐๒) ซึ่งตามกฎหมายต้องให้พนักงานเซ็นยินยอมว่าจะย้ายไปสังกัดบริษัทใหม่ ถ้าพนักงานไม่ยินยอม บริษัทต้องยอมให้พนักงานออก พร้อมจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมาย (ถ้าจะไม่ผิด อายุงานเกิน 3 ปี ได้ ๘ เท่าของเงินเดือนเดือนสุดท้าย)

พี่ A แกมีธุรกิจที่บ้าน ที่แกทนทำงานอยู่เพราะรอรับเงินชดเชยนี่แหละ คือช่วงนั้นบริษัทไม่ค่อยมีงานทำ และมีทีท่าว่าจะปิดออฟฟิศเลิกจ้างพนักงานทั้งหมดอยู่เหมือนกัน พอเกิดกรณีย้ายบริษัทก็เข้าทางแกพอดี ได้ออกจากงานไปทำธุรกิจที่บ้านสมใจ แถมมีเงินก้อนใหญ่ไปทำทุนอีกตะหาก (ถ้าพี่ A แกลาออกเองก็จะไม่ได้เงินชดเชยตรงนี้)

แต่ปรากฏว่าตอนนั้นแผนก Civil ดันมีงานเยอะมากๆ หัวหน้าของ Civil ก็เลยตกลงกับพี่ A ว่าจะขอจ้างเป็นคอนแทร็คต์ซักสองสามเดือน มาทำงานซักอาทิตย์ละสองสามวัน เพื่อสอนงานให้พนักงานใหม่ที่รับเข้ามาทำงานด้านที่พี่ A ทำอยู่ พี่ A ก็โอเคเพราะก็ได้เงินหนิ (เยอะด้วย เพราะพนักงานคอนแทร็คต์ไม่ได้สวัสดิการอื่นๆ ค่าจ้างจะสูง) แต่ปรากฏว่าทำไปทำมา เราก็เห็นพี่ A มาเดินในออฟฟิศทุกวัน

ถามไถ่ก็ได้ความว่า บริษัทตัดสินใจจ้างพี่ A กลับมาเป็นพนักงานประจำเหมือนเดิม ทั้งๆ ที่ในใบย้ายบริษัทที่พี่ A เซ็น เขาเขียนว่า ถ้าพนักงานลาออกโดยเลือกรับเงินชดเชย บริษัทจะไม่รับพนักงานกลับเข้ามาทำงานอีก (คือตรงนี้พนักงานทุกคนก็ได้รับรู้ตรงกันว่า ถ้ายังอยากทำงานตรงนี้อยู่ ก็ต้องยอมย้ายบริษัท ถ้าไม่ยอมย้ายบริษัทก็หมายถึงว่าจะไปทำงานที่อื่นแล้ว บริษัทเขาเขียนเป็นข้อกำหนดแบบนี้ เพราะเขากลัวคนเซ็นว่าไม่ยินยอมย้ายบริษัทเพื่อรับเงินก้อนชดเชย แล้วสมัครกลับมาทำงานใหม่ทีหลัง เป็นการถูกหวยสองเด้ง)

เราก็ถามว่า เฮ้ย... พวกบิ๊กๆ เขาทำแบบนี้ได้ไงวะ ไหนบอกว่าออกไปแล้วบริษัทจะไม่รับกลับเข้ามาไง ทำงี้มันหลอกพวกเราชัดๆ กลืนน้ำลายตัวเองด้วย พวกหัวหน้าๆ เขาให้เหตุผลว่า เพราะหาคนที่มีประสบการณ์อย่างพี่ A ไม่ได้ซักที แล้วงานมันก็เร่งมากๆๆๆ เราก็ถามว่า แล้วไอ้คนที่รับเข้ามาใหม่ที่ให้เทรนๆ กัน หายหัวไปไหนหมด งานที่เขาทำมันยากขนาดทั่วประเทศไทยก็หาคนทำไม่ได้เลยเหรอ พี่ที่เป็นหัวหน้าแผนกเราเขาบอกว่าเขาก็ถามหัวหน้าใหญ่คล้ายๆ แบบนี้เหมือนกัน หัวหน้าหย่ายยบอกว่า เขาคิดดีแล้วที่ทำแบบนี้ ทำแบบนี้บริษัทได้ประโยชน์ที่สุด และเงินก้อนที่บริษัทจ่ายให้กับพี่ A ไปบริษัทเขามีวิธีการต่างๆ ที่จะเอาคืน

กรณีนี้ คนที่สบายแฮที่สุดคือ พี่ A นอกจากได้เงินก้อนใหญ่ไปแล้ว ตอนที่ทำงานในฐานะคอนแทร็คเตอร์ก็ฟันเงินไปไม่รู้เท่าไหร่ แล้วตอนหลังก็ได้กลับมาเป็นพนักงานอีก แต่เราไม่โทษพี่ A เลยนะ (ออกจะยินดีกับเขาด้วย คนอะไร อ่านขาด ขนาดนั้น นี่แหละคนเราวาสนามันไม่เท่ากัน) ที่คิดโทษและด่าอยู่ปาวๆ (ในหมู่เพื่อนร่วมงานด้วยกันนะ) ก็คือพวกหัวหน้าหย่ายยยยที่เป็นคนตัดสินใจอ่ะ ทำแบบนี้แล้วจะมาว่าพนักงาน Morale ตกต่ำนี่ห้ามพูดเลย ก็อะไรๆ ก็เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาเพื่อผลประโยชน์ของบริษัทสรุปได้ว่า Rules are made to be broken (โดยเฉพาะ being broken โดยคนที่สร้างกฎขึ้นมาเอง)

นี่แค่กรณีเดียวก็ยาวยืดแล้ว เดี๋ยวไว้มาต่ออีกกรณีที่สองวันอื่นดีกว่านะ :)